วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สนทนาถึงการบวช


สนทนากันถึงเรื่องการบวช

...........ผมไปงานศพญาติเขาให้บวชหน้าไฟ จะได้บุญไหมครับ ?

...........การบวชหน้าไฟ ก็คงหมายถึงการบวชเพื่อจูงศพไปวัด ที่กำลังฮอตกำลังฮิตทุกบ้านทุกเมือง
งานไหนไม่มีบวชจูงศพก็จะมีเสียงนินทาว่า ไม่มีลูกหลานบวชจูงศพให้ ก็สารภาพแหละครับว่าไม่ทราบประวัติความเป็นมาของประเพณีแปลก ๆอย่างนี้ เท่าที่รู้จักคำโบราณเคยสอนกันว่า เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องบวชเรียนให้พ่อแม่สัมผัสชายผ้าเหลืองก่อนจึงควรแต่งเหย้าแต่งเรือน หรือไม่ก็สำนวนคำว่ามีลูกชาย
ก็หมายว่าจะได้เกาะชาย ผ้าเหลืองลูกไปสวรรค์ ก็รู้จักประมาณนี้ประเภทบวชจูงศพนี่ไม่เคยได้ยินมา
ก่อนว่าจะได้ประโยชน์สักกี่มากน้อย
...........ที่ถามว่าได้บุญไหม ไม่มีปัญหาครับการบวชก็คือความตั้งใจจะเป็นบรรพชิตจะเป็นเพียงเหล่ากอของสมณะคือสามเณรก็ไม่เป็นไร ถือว่ามีเจตนาจะทำดี แล้วก็ลงมือทำจริง ๆ คือบวชเป็นสามเณรถือศีล 10 ข้อ และปฏิบัติเป็นผู้ทรงศีลได้ตั้งหลายชั่วโมง นั่นแหละคือบุญที่ได้รับ แต่บางทีก็อาจเสียโอกาสสำคัญ ๆไป เช่นถ้าผู้ตายเป็นมารดา เป็นสตรี บวชแล้วแตะต้องศพไม่ได้ จะยกจะหามศพ ไม่เหมาะ
สำหรับคนห่มผ้าเหลือง ก็ฝาก ให้คิดเอาเองได้ใช่ไหมครับว่าสะดวกไหม
..........ความเห็นส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเห็นด้วยครับ เพราะการบวชเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนา สมัยก่อนคนจะบวชได้ยุ่งยากมาก บิดามารดา ต้องอนุญาต ต้องมีบริขารครบ ต้องไม่มีอันตรายิกธรรม คณะสงฆ์สอบสวนจนมั่นใจจึงบวชให้ และบวชแล้วมักจะบวชเลยไม่สึก หรือไม่ก็อยู่ กันจนผ้าเหลืองร้อนทนไม่ได้จึงสึก ประเภทบวชเพื่อจูงศพไปเมรุ บวชบ่ายโมงสึกห้าโมงเย็นรวม 4 ชั่วโมงไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ในพระบัญญัติคัมภีร์ไหน เปิดตำราไม่ทันครับ
.........ไปช่วยงานบวชนาคมา เขาจัดใหญ่โตมาก จะบวชลูกชาย ไม่มีเงินจะทำได้ไหมนี่อาจารย์ ?
.........แม่ ที่มีลูกชายใกล้อายุครบบวช บ่นให้ฟัง เขาจัดโต๊ะจีน 50 โต๊ะ หล้ายาเพียบ แขกเต็มบ้าน มีหมอลำซิ่งตอนกลางวัน กลางคืนวงดนตรี ตอนเช้าไปวัดขบวนแห่นาคยาวเหยียด น่าปลื้มใจจริง ๆ
มานึกถึงคราวตัวเองจะทำได้ไหมนี่ คงใช้เงินเป็นแสน ฟังเธอบ่นไปก็เห็นใจครับ ทุกวันนี้ ค่านิยม ราคาแพงมากขึ้น ๆ ระวังเถอะอีกหน่อยจะไม่มีใครบวชลูกหลาน ก็ต้องปลอบใจกันครับว่า บวชลูกไม่แพงอย่างที่คิด ปีที่แล้วนี่เองผมบวชลูกชาย 1 คน ค่าใช้จ่าย ประมาณนี้
            1. ไตรจีวรและบริขารจำเป็น 5000 บาท (ของดีเลยราคาแพง)
            2. ของถวายพระ 7 ชุด 2100 บาท
            3. งบจัดอาหารเลี้ยงแขก 10000 บาท(แขกบ้านใกล้เรือนเคียง 40 คน)
            4. ปัจจัยถวายพระ 3500 บาท
            6. สมทบกองทุนมูลนิธิวัด 5000 บาท
                สำรอง 4400 บาท
                           รวม 30000 บาท
............หลังจากประมาณการค่าใช้จ่ายไว้แล้ว ก็เตรียมเงินไว้ 40000 บาท จัดงานแบบเรียบง่ายครับ ถึงจะบวชแค่ 15 วัน ก็ตั้งใจทำไปปรึกษาพระอุปัชฌายะ ท่านก็ให้คำแนะนำที่ดี ก่อนบวช 7 วัน นำนาคไปถวายท่าน เรียนรู้วิธีปฎิบัติตนเมื่ออยู่วัด และท่องคำขานนาค ให้ได้ ถ้าท่องไม่ได้ ไม่มีพิธีบวชให้ ต้องเลื่อนไปจนกว่าจะท่องได้ (ไม่กี่บรรทัดเอง ท่องได้อยู่แล้ว ) วันงานทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน ตอนเช้าจัดโต๊ะให้แขกนั่งรับประทานอาหาร 10 โต๊ะ อาหารแม่ครัวเขาจัดทำเอง ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เนื้อ เป็ด ไก่ หาเอาเอง ได้ก็ใช้ หาไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้ แขกมาร่วมงานประมาณ 50 คน เสร็จทำบุญตอนเช้า ก็พานาคไปวัด ไม่มีขบวนแห่ วัดอยู่ห่าง 2 กม. ญาติพี่น้องเขาไปรอที่วัดแล้ว หลวงพ่อและคณะสงฆ์ ลงมาที่พระอุโบสถ ก็เริ่มพิธีอุปสมบทให้ ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวก็เสร็จ งบเหลือไม่บานปลาย จัดอย่างประหยัด ๆ ได้ไหม ได้ซิครับ เพราะพิธีบวชพระ ก็คือ พิธีที่คณะสงฆ์ท่านประกาศรับสมาชิกใหม่ ตัดรายการอื่น ๆ ออก เอาไว้เฉพาะที่จำเป็น ค่าใช้จ่ายก็จะลดลง อะไรบ้างที่จำเป็นตัดไม่ได้
1. ไตรจีวรและบริขาร 5000 บาท (ใช้ของถูก ราคาอาจลดลงอีก แต่ไม่แนะนำ)
2. ของถวายพระ 5 ชุด 1500 บาท
3. ปัจจัยถวายพระ 2500 บาท
............วิธีนี้ เตรียมนาคเองให้พร้อม ไปกราบเรียนพระอุปัชฌายะ ขอคณะสงฆ์ 5 รูป ทำสังฆกรรม นัดวันเวลา ก็พานาคไปที่วัดได้เลย จัดแบบนี้ไม่มีทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน แต่ก็บวชลูกชายได้เป็นพระเช่นกัน งบประมาณ หมื่นบาท บวชลูกได้ครับ
............บวชแทนคุณพ่อแม่ แทนได้จริงหรืออาจารย์ ?
............พวกไปช่วยงานบวชมีคำถามมาฝากเยอะจริง ๆ ก็เห็นพูดกันมานานแล้วว่าการบวช เพื่อแทนคุณพ่อแม่ แสดงว่าคงจะทดแทนได้จริง จึงได้นิยมบวชลูกหลานกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทำไมเพิ่งจะมาสงสัยเอาตอนนี้ ความจริงการบวชนั้นมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ ต้องการโมกขธรรม แบบที่พระพุทธเจ้าท่านสละราชสมบัติออกบวชนั่นแหละ วัตถุประสงค์อย่างอื่น เป็นเพียงผลพลอยได้ เช่นบวชเพื่อเลิกเหล้า บวชเพื่อหลบภัย บวชเพื่อแทนคุณพ่อแม่ บวชให้เป็นคนสุกก่อนแต่งงาน ฯลฯ
...........บวชแทนคุณพ่อแม่ คือประเด็นที่คุยกันวันนี้ จากวัตถุประสงค์การบวชเพื่อแทนคุณพ่อแม่ แสดงว่าบวชแล้วได้บุญ มากพอที่จะมาแทนคุณพ่อแม่ได้ บวชแล้วไปได้บุญมาจากไหน ถึงจะมากขนาดนั้น
วัดเป็นแหล่งสะสมบาปกองโต เพราะคนนิยมไปทำบุญที่วัด เอากิเลสไปสละไว้ที่นั่น พวกทำทานเอา ความโลภไปสละทิ้งไว้ เกิดข้าวปลาอาหาร เกิดเสนาสนะสงฆ์ เกิดเครื่องอำนวยความสะดวกให้วัด มาจากทานที่ชาวบ้านเขาสละความโลภทิ้งเอาไว้ พระที่อยู่วัดต้องระวังตัวให้ดี บริโภคข้าวปลาอาหาร ใช้สอยวัสดุต่าง ๆ ต้องระมัดระวังคือ พิจารณาก่อนบริโภคปัจจัย 4 มิฉะนั้นอาจได้บาปตัวโต ๆ แถมมา
คุณบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ คุณต้องเสาะหาบุญให้มาก ๆตลอดเวลาที่อยู่เป็นพระ หลักการทำบุญก็มี 3 อย่าง เท่ากับชาวบ้านคือ ทานมัย สีลมัยและภาวนามัย ทานมัยคงทำได้น้อยเพราะพระไม่มีเงิน หาเงินเองไม่ได้ จะทำไร่ทำนาหาข้าวของมาทำทานก็ทำไม่ได้ โอกาสจะทำทานให้ได้บุญมาก ๆ เพื่อแทนคุณพ่อแม่คงทำยาก ุ่้่้ี้ี่่
............สร้างบุญด้วยสีลมัย พระมีศีล 227 ข้อ การรักษาศีลมากข้อขนาดนั้น น่าจะได้บุญมากกว่ารักษาศีล 5 ข้อ ขนาดศีลปริมาณมากกว่า กัน 45 เท่า ถ้าจะประมาณบุญที่ได้จากการรักษาศีล 5 กับศีล 227 ก็ดูจากปริมาณศีลก็แล้วกัน จริงอยู่ 227 ข้อ อาจรักษาได้ไม่ครบ ขาดไปบ้าง อาจคงบริสุทธิ์ได้ซัก 180 ข้อ ก็ยังมากอยู่ดี แสดงว่ารักษาศีล 227 ข้อนี่ ได้บุญมาก ๆ ลองเทียบดู พระรักษาศีล 1 วัน เท่ากับเรารักษาศีล 40 วัน บวช 15 วัน เท่ากับรักษาศีล 5 ถึง 600 วัน คือ 2 ปี ทีเดียว บุญที่ได้จากตรงนี้มั้งที่เขาว่า ทดแทนคุณพ่อแม่ได้ ดังนั้นเป็นพระต้องหมั่นตรวจสอบศีลของตนทุกวันแล้วตั้งใจรักษาอย่างให้ขาดตกบกพร่อง จะได้บุญแบบไม่ต้องเสียเงิน  และปริมาณมากมายด้วย
.............สร้างบุญด้วยภาวนามัย เป็นการฝึกอบรมให้เกิดความรู้สึกตัว คือ มีสติสัมปชัญญะ ฝึกให้เกิด
บ่อย ๆ ไปศึกษาวิธีฝึกสติปัฏฐานให้ดีเพราะเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เกิดวิปัสสนาญาณ ทางที่จะนำไปสู่มรรคผลนิพพาน ตามวัตถุประสงค์ของการบวช พระท่านจะสอนกัมมัฏฐานให้ตั้งแต่ตอนสวดนาค
ในอุโบสถ ให้ท่อง เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ เอาไว้พิจารณาหลังทำวัตรสวดมนต์ นอกจากนี้ท่านยังสอนให้ดูกายดูใจของตนเอง เห็นกายก็ให้รู้สึกตัว กายเคลื่อนไหวอิริยาบถต่าง ๆ ก็ให้สึกตัวว่ากายกำลังเคลื่อนไหว เช่นกำลังยืน กำลังเดิน กำลังนั่ง กำลังนอนกำลังหายใจเข้า กำลังหายใจออก ฯลฯ หรือถ้าดูใจก็จะเห็นใจกำลังคิดเรื่องต่าง ๆ ก็ให้สึกตัวว่าใจกำลังคิด กำลังรู้สึกเวทนาต่าง ๆใจกำลังนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ความรู้สึกตัวในขณะที่ดูกาย ดูใจเป็นวิธีการฝึกตามหลักสติปัฏฐาน จะทำให้มีสติกล้าแข็งมากยิ่งขึ้น เป็นบุญที่มีคุณค่า มหาศาล บุญแบบนี้เป็นปัญญาที่จะนำไปสู่มรรคผล มีค่ามากใช้ทดแทนคุณพ่อแม่ได้สบาย ๆ
..........ตอบคำถามได้แล้วนะครับว่าการบวช ต้องรู้วิธีสร้างบุญแบบที่ 2 และ 3 คือ สีลมัย และภาวนามัย เป็นการสร้างบุญที่ไม่ต้องใช้เงินครับ แต่บุญที่ได้มากมากยมหาศาล เอาไปทดแทนคุณพ่อแม่ได้ แต่ถ้าบวชแล้วไม่รู้จักสร้างบุญเอง ก็ไม่ได้บุญครับ ไม่ต้องถามว่าแทนคุณพ่อแม่ได้ไหม
...........ลูกผู้หญิงอยากบวชให้พ่อแม่ ทำได้ไหมคะ เห็นสตรีหลายท่านห่มเหลืองออกทีวีสวยดี ?
...........นึกว่าอยากบวชจริง ๆ ที่แท้สนใจชุดสีเหลืองของท่านแม่ชีที่ประกาศว่าไปบวชภิกษุณีมาแล้วนั่นเอง ผมก็เห็นครับ ตามหลักพุทธศาสนานิกายหินยานของเรา ทราบมาว่าพระพุทธเจ้าไม่ประสงค์จะให้สตรีบวช เพราะนักบวชชายกับหญิงอยู่ปนกันปกครองลำบาก สำหรับท่านที่ตัดกิเลส เป็นพระอริยบุคคล แล้วไม่มีปัญหาแต่ที่บวชใหม่ หน้าตาจุ๋มจิ๋ม ไปเจอหลวงพี่บวชใหม่หรือหลวงพี่ที่กิเลส ตัดยังไม่ขาด โอกาสพรหมจรรย์จะพังพาบมีเยอะ  ท่านเลยไม่อยากบวชให้ ขนาดคนทูลขออนุญาตคือพระมารดา 
นางปชาบดีโคตมี ก็ไม่ใจอ่อน แต่ในที่สุดก็ยอมเหตุผลพระอานนท์ท่าน เพราะพระอานท์ทูลถามว่าสตรีสามารถ บรรลุอริยมรรคอริยผลได้หรือไม่ พระพุทธองค์ก็ตรัสว่าไม่มีปัญหา พระอานนท์ได้โอกาสจึงทูลขออนุญาต ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่วางใจ ต่อมาจึงได้ กำหนดให้ถือศีลเคร่งครัดกว่าพระภิกษุ ผู้จะบวชต้องประพฤติวัตรเคร่งครัดหลายปีจึงจะมีคุณสมบัติบวชได้ และเวลาบวชก็ต้องบวชจากพระอุปัชฌาย์ สองฝ่าย คือฝ่ายภิกษุด้วย ฝ่ายภิกษุณีด้วย เพราะระเบียบที่เคร่งครัด ทำให้ภิกษุณีหมดไปก่อนที่จะสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันการบวชของสุภาพสตรีในนิกายหินยานจึงทำไม่ได้ เพราะสาวกไม่ยอมแก้ไขพระวินัยบัญญัติ พระอุปัชฌาย์ฝ่ายภิกษุณีไม่มีแล้ว ดังนั้นจึง ไม่สามารถบวชภิกษุณีได้ ถ้าสนใจจริง ๆ ฝ่ายมหายานที่แพร่หลายอยู่ทางจีน ญี่ปุ่น เขาแก้ไขบทบัญญัติที่ไม่เหมาะกับยุคสมัยบางข้อ ทำให้สามารถ มีนักบวชหญิงได้ สงสัยจะต้องบินไปบวชทางโน้นแหละครับ
..............ความเห็นส่วนตัวของกระผม ลูกผู้หญิงอยากบวชให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองเหมือนลูกชาย ไม่มีปัญหาครับไม่ต้องใช้ผ้าเหลืองก็ได้ เพราะ การที่ผู้ชายบวชก็เพื่อถือศีลปฏิบัติธรรม พ่อแม่ก็ชื่นชมสนใจทำบุญทำทานมากขึ้น ผลก็คือคุณพ่อคุณแม่ได้บุญได้กุศลเพราะลูกชายเป็นแรงจูงใจ คุณลูกหญิง รู้อย่างนี้แล้วก็ไม่ยากนี่ครับ ประพฤติตัวเราให้เป็นลูกสาวที่มีศีลมีคุณธรรม ขี้คร้านพ่อแม่จะชื่นชมยิ่งกว่าลูกชายซะอีก โถจะมีลูกชายสักกี่คนที่มีโอกาสเลี้ยงดูพ่อแม่จนถึงวาระสุดท้าย คุณลูกหญิงต่างหาก ล่ะครับโอกาสดีกว่าปฏิบัติตนเป็นลูกสาวที่ดี  ขยันศึกษาเล่าเรียน ขยันหมั่นเพียรทำการงาน มีครอบครัวที่ดี
เลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยความเคารพ ใคร ๆ ก็อยากมีลูกแบบนี้ครับ ลูกสาวทำได้ดีกว่าลูกชายอีก
-----------------------
ขุนทอง ตรวจทาน 2/8/59





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น