วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แนวปฏิบัติของชาวพุทธ

  
จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยจุดอย่างไรจึงจะถูกครับ ?

.............เด็กนักเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด เพื่อนลูกสาวมาสัมภาษณ์ ทราบว่าครูให้เขียนรายงาน ชวนกันมาหลายคน เด็กสมัยนี้เก่ง ไปอ่านตำราอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะหาเจอ ถามผู้เฒ่าผู้แก่ง่ายดี แถมมีขนมให้กินด้วย วิญญาณนักเทศก์เก่าก็กำเริบซิขอรับ ได้เลย คุณหนู ๆ การจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เราจะเลือกคนสำคัญที่สุดในสถานที่นั้น ๆ เป็นผู้จุด อาจเป็นผู้อาวุโส  ประธาน แขกคนสำคัญ บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส เจ้าของงานวันเกิด เป็นต้น จากนั้นก็คนเตรียมเทียนชนวน ควรดูธูปเทียนที่จะจุดบนโต๊ะหมู่บูชาล่วงหน้า ไส้เทียนก็สำคัญ เคยพบบางงานประธานจุดตั้งนานเทียนก็ไม่ติด ธูปยิ่งแล้วใหญ่ จนท่านมือไม้สั่นไปหมดน่าสงสารออก แกะเทียนออกจาก ใส้ เปิด ให้เห็นด้าย ใส้เทียนชัด ๆ จุดปุ๊บติดปั๊บนั่นแหละใช้ได้ ธูปจุ่มน้ำตาเทียนหรือทายาหม่องให้จะช่วยให้ติดง่าย เวลาส่งเทียนชนวนคนส่ง ควร ระวัง อย่าให้มือเราสูงกว่ามือคนรับไปจุด ทั้งตอนส่งและตอนรับคืน,
............สำหรับท่านที่ต้องทำหน้าที่จุดธูปเทียน เคยมีนักปราชญ์ผู้เคร่งศาสนาเถียงกันว่าจุดอะไรก่อน 
บางท่านว่า"จุดธูปก่อนซิเขาเชิญจุดธูป เทียน ก็ต้องจุดธูปแล้วค่อยไปจุดเทียน" อีกท่านว่า "ใคร ๆ เขาจุดเทียนให้ติดก่อน แล้วค่อยจุดธูป ทำตามที่คนรุ่นก่อน ๆ เขาทำแล้วกัน" เอาเรื่อง เหมือนกันไม่มีใครยอมกัน ข้อควรทราบคือจุดเทียนติดง่ายกว่า จุดก่อนดีแล้ว เทียนชนวนดับ ยังมีไฟเทียนลุกอยู่จุดธูปต่อได้
อีกอย่าง เทียน เขาจุดเป็นการบูชาธรรม เทียบด้วยดวงตาเห็นธรรม ปราชญ์สมัยก่อนท่านถือศักดิ์
ของเทียนสูงกว่าธูป ควรจุดเทียนก่อน ครับ

ทำไมต้องแย่งถือทัพพีตักบาตร
 ............... เวลาตักบาตรวันแต่งงาน หนูเห็นชาวบ้านแนะนำเจ้าสาวจับด้ามทัพพีตรงด้าม สูงกว่ามือเจ้าบ่าว เพราะอะไรคะ ?
         เจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองไปงานแต่งงานเพื่อนของเธอ เห็นแย่งกันจับด้ามทัพพีตักบาตรพระ โดยมีคุณแม่แต่ละฝ่ายเป็นกองเชียร์  เป็นความเชื่อแบบพิลึก ๆ ของชาวบ้านครับ แต่งกันแล้วจะได้เป็นใหญ่ในบ้าน ไม่ถูกสามีข่ม  แต่แท้จริงแล้วเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย ผู้ใหญ่พึงระวังด้วยครับเพราะท่านกำลังยุให้เด็ก ๆ เขาไม่รู้จักยอมกัน ประกาศสงครามกันตั้งแต่วันแรกแล้ว การแต่งงานมิใช่เรื่องชิงดีชิงเด่นกันใช่ไหมครับ แต่เป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันประคับประคองชีวิตคู่ ปกติประเพณีพื้นบ้านเรายกย่อง
ภรรยาให้เป็นใหญ่ในบ้านเรียกว่า แม่บ้าน อยู่แล้ว  ไปวิตกทำไมจะถูกสามีข่ม ขอเพียงทำตัวเป็นแม่บ้านที่ดี ร้อยทั้งร้อยผู้ชายเขายอมอยู่แล้ว แต่ถ้าทำตัวไม่ดีไม่มีศีลธรรมจรรยา ต่อให้แย่งทัพพีจากเจ้าบ่าวมาถือคนเดียวได้ ก็ไม่เก่งหรอกครับ  จะเป็นใหญ่ในบ้านได้หรือไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมของภรรยานั่นเอง 
ใช่ไหมครับ
ทำไมพระสวดก่อนฉัน
.................ผมไปทำบุญบ้านญาติที่ต่างจังหวัด พอถวายภัตตาหารเสร็จเห็นพระท่านสวดคาถาบาลีก่อนฉัน  ฉันเสร็จก็สวดอีก ทางบ้านกระผม พระ ท่านสวด เมื่อฉันเสร็จครั้งเดียว  ทำไมพิธีกรรมแตกต่างกันครับ ?
............ ฟังที่เล่ามาน่าจะเป็นประเพณีของคุ้มวัดที่นับถือธรรมยุติกับมหานิกาย ที่เคยมีเรื่องเปรียบเทียบกันบ่อย ๆ ว่าคุ้มวัดนี้ทำแบบนี้ คุ้มวัด นั้นทำ อีกแบบไม่เหมือนกัน  หนักเข้าก็ลามไปถึงพระวัดฉันเก่งกว่าพระวัดเธอ แล้วก็ไปจบลงที่การวางมวยกัน  ก็ไม่มีอะไรมากครับ เป็นกิจของพระภิกษุ ถ้าได้รับไทยทานที่ชาวบ้านถวายไม่เจาะจงว่าถวายให้สงฆ์ ท่านก็รับไว้และบริโภคได้เลย แต่ถ้าเขาระบุว่าถวายแก่สงฆ์ นะ ก็คำบาลีถวายทาน ที่ว่า สังฆัสสะ โอโณชยามะ   และ ที่ว่า  สังโฆ....ปฏิคคัณหาตุ    นั่นแหละคำ
สำคัญที่ระบุว่าถวายสงฆ์ เป็นการถวายให้เป็นของส่วนรวม   ภิกษุไป หยิบมา ใช้ส่วนตัวผิดวินัยครับ  
คุ้มวัดหนึ่งพระท่านเห็นว่าชาวบ้านตั้งใจถวายให้พระที่นั่งอยู่บนอาสนะนั่นแหละฉัน ถึงจะกล่าวคำบาลีว่า ถวายสงฆ์ ก็สงฆ์  4  รูป 5 รูป 7 รูปหรือ 9 รูปที่นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าภาพนั่นเอง ไม่ได้หมายถึงพระที่อยู่ที่อื่น ท่านรับแล้วก็ลงมือฉัน  ส่วนอีกคุ้มหนึ่งพระท่าน เห็นว่า เมื่อถวาย สงฆ์ก็เป็นของพระสงฆ์ทั้งหมดซิ  ต้องทำพิธีอปโลกณกรรมก่อน สวดเป็นคำบาลีสั้น ๆ  แปลเป็นภาษาลาวอีสานว่า ท่านได้รับไทยทานที่ชาวบ้านถวาย แก่สงฆ์มาแล้ว จะแบ่งกันตามพระวินัยบัญญัติให้ทุกรูปตามลำดับอาวุโส ถ้าไม่มีใครคัดค้านก็ตกลงตามนี้  ความหมายก็ ประมาณนี้ จบแล้วท่านก็ฉัน ข้อแตกต่างก็คงมีเท่านี้   ถ้าจะถามแบบไหนถูกแบบไหนผิด ไม่มีผิดมีถูกหรอกครับ ต่างก็มีเหตุผลด้วยกันทั้ง 2 แบบ แล้วแต่ พระ ท่านเถอะครับ ชาวบ้าน อย่างเราถวายเสร็จก็ได้บุญแล้ว  ท่านจะฉันแล้วอร่อยหรือไม่อร่อยปล่อยให้ท่านฉันของท่านเถอะ
---------------------------
ขุนทอง ตรวจทาน 2/8/59


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น