จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยจุดอย่างไรจึงจะถูกครับ ?
.............เด็กนักเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด
เพื่อนลูกสาวมาสัมภาษณ์ ทราบว่าครูให้เขียนรายงาน ชวนกันมาหลายคน เด็กสมัยนี้เก่ง
ไปอ่านตำราอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะหาเจอ ถามผู้เฒ่าผู้แก่ง่ายดี
แถมมีขนมให้กินด้วย วิญญาณนักเทศก์เก่าก็กำเริบซิขอรับ ได้เลย
คุณหนู ๆ การจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เราจะเลือกคนสำคัญที่สุดในสถานที่นั้น ๆ
เป็นผู้จุด อาจเป็นผู้อาวุโส ประธาน
แขกคนสำคัญ บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส เจ้าของงานวันเกิด เป็นต้น
จากนั้นก็คนเตรียมเทียนชนวน ควรดูธูปเทียนที่จะจุดบนโต๊ะหมู่บูชาล่วงหน้า
ไส้เทียนก็สำคัญ เคยพบบางงานประธานจุดตั้งนานเทียนก็ไม่ติด ธูปยิ่งแล้วใหญ่
จนท่านมือไม้สั่นไปหมดน่าสงสารออก
แกะเทียนออกจาก ใส้ เปิด ให้เห็นด้าย ใส้เทียนชัด ๆ จุดปุ๊บติดปั๊บนั่นแหละใช้ได้
ธูปจุ่มน้ำตาเทียนหรือทายาหม่องให้จะช่วยให้ติดง่าย
เวลาส่งเทียนชนวนคนส่ง ควร ระวัง อย่าให้มือเราสูงกว่ามือคนรับไปจุด
ทั้งตอนส่งและตอนรับคืน,
............สำหรับท่านที่ต้องทำหน้าที่จุดธูปเทียน
เคยมีนักปราชญ์ผู้เคร่งศาสนาเถียงกันว่าจุดอะไรก่อน
บางท่านว่า"จุดธูปก่อนซิเขาเชิญจุดธูป เทียน ก็ต้องจุดธูปแล้วค่อยไปจุดเทียน" อีกท่านว่า "ใคร ๆ เขาจุดเทียนให้ติดก่อน แล้วค่อยจุดธูป ทำตามที่คนรุ่นก่อน ๆ เขาทำแล้วกัน" เอาเรื่อง เหมือนกันไม่มีใครยอมกัน ข้อควรทราบคือจุดเทียนติดง่ายกว่า จุดก่อนดีแล้ว เทียนชนวนดับ ยังมีไฟเทียนลุกอยู่จุดธูปต่อได้
อีกอย่าง เทียน เขาจุดเป็นการบูชาธรรม เทียบด้วยดวงตาเห็นธรรม ปราชญ์สมัยก่อนท่านถือศักดิ์
บางท่านว่า"จุดธูปก่อนซิเขาเชิญจุดธูป เทียน ก็ต้องจุดธูปแล้วค่อยไปจุดเทียน" อีกท่านว่า "ใคร ๆ เขาจุดเทียนให้ติดก่อน แล้วค่อยจุดธูป ทำตามที่คนรุ่นก่อน ๆ เขาทำแล้วกัน" เอาเรื่อง เหมือนกันไม่มีใครยอมกัน ข้อควรทราบคือจุดเทียนติดง่ายกว่า จุดก่อนดีแล้ว เทียนชนวนดับ ยังมีไฟเทียนลุกอยู่จุดธูปต่อได้
อีกอย่าง เทียน เขาจุดเป็นการบูชาธรรม เทียบด้วยดวงตาเห็นธรรม ปราชญ์สมัยก่อนท่านถือศักดิ์
ของเทียนสูงกว่าธูป
ควรจุดเทียนก่อน ครับ
ทำไมต้องแย่งถือทัพพีตักบาตร
ทำไมต้องแย่งถือทัพพีตักบาตร
............... เวลาตักบาตรวันแต่งงาน
หนูเห็นชาวบ้านแนะนำเจ้าสาวจับด้ามทัพพีตรงด้าม สูงกว่ามือเจ้าบ่าว เพราะอะไรคะ
?
เจ้าสาวเมื่อเดือนที่แล้วนี่เองไปงานแต่งงานเพื่อนของเธอ
เห็นแย่งกันจับด้ามทัพพีตักบาตรพระ โดยมีคุณแม่แต่ละฝ่ายเป็นกองเชียร์ เป็นความเชื่อแบบพิลึก ๆ ของชาวบ้านครับ
แต่งกันแล้วจะได้เป็นใหญ่ในบ้าน ไม่ถูกสามีข่ม
แต่แท้จริงแล้วเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจไม่น้อย
ผู้ใหญ่พึงระวังด้วยครับเพราะท่านกำลังยุให้เด็ก ๆ เขาไม่รู้จักยอมกัน
ประกาศสงครามกันตั้งแต่วันแรกแล้ว การแต่งงานมิใช่เรื่องชิงดีชิงเด่นกันใช่ไหมครับ
แต่เป็นเรื่องที่จะต้องช่วยกันประคับประคองชีวิตคู่ ปกติประเพณีพื้นบ้านเรายกย่อง
ภรรยาให้เป็นใหญ่ในบ้านเรียกว่า
แม่บ้าน อยู่แล้ว ไปวิตกทำไมจะถูกสามีข่ม
ขอเพียงทำตัวเป็นแม่บ้านที่ดี ร้อยทั้งร้อยผู้ชายเขายอมอยู่แล้ว
แต่ถ้าทำตัวไม่ดีไม่มีศีลธรรมจรรยา ต่อให้แย่งทัพพีจากเจ้าบ่าวมาถือคนเดียวได้
ก็ไม่เก่งหรอกครับ จะเป็นใหญ่ในบ้านได้หรือไม่ได้อยู่ที่พฤติกรรมของภรรยานั่นเอง
ใช่ไหมครับ
ทำไมพระสวดก่อนฉัน
ใช่ไหมครับ
ทำไมพระสวดก่อนฉัน
.................ผมไปทำบุญบ้านญาติที่ต่างจังหวัด
พอถวายภัตตาหารเสร็จเห็นพระท่านสวดคาถาบาลีก่อนฉัน ฉันเสร็จก็สวดอีก
ทางบ้านกระผม พระ ท่านสวด เมื่อฉันเสร็จครั้งเดียว ทำไมพิธีกรรมแตกต่างกันครับ ?
............ ฟังที่เล่ามาน่าจะเป็นประเพณีของคุ้มวัดที่นับถือธรรมยุติกับมหานิกาย
ที่เคยมีเรื่องเปรียบเทียบกันบ่อย ๆ ว่าคุ้มวัดนี้ทำแบบนี้
คุ้มวัด นั้นทำ อีกแบบไม่เหมือนกัน
หนักเข้าก็ลามไปถึงพระวัดฉันเก่งกว่าพระวัดเธอ
แล้วก็ไปจบลงที่การวางมวยกัน ก็ไม่มีอะไรมากครับ
เป็นกิจของพระภิกษุ ถ้าได้รับไทยทานที่ชาวบ้านถวายไม่เจาะจงว่าถวายให้สงฆ์
ท่านก็รับไว้และบริโภคได้เลย แต่ถ้าเขาระบุว่าถวายแก่สงฆ์ นะ
ก็คำบาลีถวายทาน ที่ว่า สังฆัสสะ โอโณชยามะ
และ ที่ว่า สังโฆ....ปฏิคคัณหาตุ นั่นแหละคำ
สำคัญที่ระบุว่าถวายสงฆ์
เป็นการถวายให้เป็นของส่วนรวม ภิกษุไป
หยิบมา ใช้ส่วนตัวผิดวินัยครับ
คุ้มวัดหนึ่งพระท่านเห็นว่าชาวบ้านตั้งใจถวายให้พระที่นั่งอยู่บนอาสนะนั่นแหละฉัน ถึงจะกล่าวคำบาลีว่า ถวายสงฆ์ ก็สงฆ์ 4 รูป 5 รูป 7 รูปหรือ 9 รูปที่นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าภาพนั่นเอง ไม่ได้หมายถึงพระที่อยู่ที่อื่น ท่านรับแล้วก็ลงมือฉัน ส่วนอีกคุ้มหนึ่งพระท่าน เห็นว่า เมื่อถวาย สงฆ์ก็เป็นของพระสงฆ์ทั้งหมดซิ ต้องทำพิธีอปโลกณกรรมก่อน สวดเป็นคำบาลีสั้น ๆ แปลเป็นภาษาลาวอีสานว่า ท่านได้รับไทยทานที่ชาวบ้านถวาย แก่สงฆ์มาแล้ว จะแบ่งกันตามพระวินัยบัญญัติให้ทุกรูปตามลำดับอาวุโส ถ้าไม่มีใครคัดค้านก็ตกลงตามนี้ ความหมายก็ ประมาณนี้ จบแล้วท่านก็ฉัน ข้อแตกต่างก็คงมีเท่านี้ ถ้าจะถามแบบไหนถูกแบบไหนผิด ไม่มีผิดมีถูกหรอกครับ ต่างก็มีเหตุผลด้วยกันทั้ง 2 แบบ แล้วแต่ พระ ท่านเถอะครับ ชาวบ้าน อย่างเราถวายเสร็จก็ได้บุญแล้ว ท่านจะฉันแล้วอร่อยหรือไม่อร่อยปล่อยให้ท่านฉันของท่านเถอะ
---------------------------
ขุนทอง ตรวจทาน 2/8/59
คุ้มวัดหนึ่งพระท่านเห็นว่าชาวบ้านตั้งใจถวายให้พระที่นั่งอยู่บนอาสนะนั่นแหละฉัน ถึงจะกล่าวคำบาลีว่า ถวายสงฆ์ ก็สงฆ์ 4 รูป 5 รูป 7 รูปหรือ 9 รูปที่นั่งอยู่ตรงหน้าเจ้าภาพนั่นเอง ไม่ได้หมายถึงพระที่อยู่ที่อื่น ท่านรับแล้วก็ลงมือฉัน ส่วนอีกคุ้มหนึ่งพระท่าน เห็นว่า เมื่อถวาย สงฆ์ก็เป็นของพระสงฆ์ทั้งหมดซิ ต้องทำพิธีอปโลกณกรรมก่อน สวดเป็นคำบาลีสั้น ๆ แปลเป็นภาษาลาวอีสานว่า ท่านได้รับไทยทานที่ชาวบ้านถวาย แก่สงฆ์มาแล้ว จะแบ่งกันตามพระวินัยบัญญัติให้ทุกรูปตามลำดับอาวุโส ถ้าไม่มีใครคัดค้านก็ตกลงตามนี้ ความหมายก็ ประมาณนี้ จบแล้วท่านก็ฉัน ข้อแตกต่างก็คงมีเท่านี้ ถ้าจะถามแบบไหนถูกแบบไหนผิด ไม่มีผิดมีถูกหรอกครับ ต่างก็มีเหตุผลด้วยกันทั้ง 2 แบบ แล้วแต่ พระ ท่านเถอะครับ ชาวบ้าน อย่างเราถวายเสร็จก็ได้บุญแล้ว ท่านจะฉันแล้วอร่อยหรือไม่อร่อยปล่อยให้ท่านฉันของท่านเถอะ
---------------------------
ขุนทอง ตรวจทาน 2/8/59
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น