วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นักบุญรู้จักบุญหรือยัง


คุยเรื่องบุญเอาภาพตอนไปไหว้พระที่พุทธมณฑลมาอวด

นักบุญรู้จักบุญหรือยัง
........ชาวพุทธทั่วไปคงไม่มีใครรู้สึกแปลกกับ "บุญ" กันหรอกครับ เพราะได้ยินได้ฟัง บ่อยเหลือเกินเช่น...บุญมากแล้วที่ได้เกิดมาเป็นคน เป็นบุญมากนะได้พบพุทธศาสนา มาตักบาตรทำบุญกัน พระมาตอนเช้า ๆ ไปวัดทำบุญกัน บ้านโน้นเขาทำบุญบ้าน คุณตาเป็นคนใจบุญ .....ฯลฯ เราได้ยินบุญบ่อย ๆ แต่เชื่อไหมว่า เราไม่ค่อยรู้จักบุญ ถามว่าบุญคืออะไร พระก็พระเถอะ ตอบไม่ค่อยจะเหมือนกันหรอก
........อยากรู้จักบุญ ไปศึกษาให้ดีว่า บุญมันเกิดมาจากไหน จะได้ตามไปดูชัด ๆ บุญเกิด ๓ ช่องหลัก ๆ คือ ทานมัย สีลมัย และ ภาวนามัย ท่านเรียกบุญกิริยาวัตถุ ๓  แต่ก็ยังมีละเอียดกว่านี้อีกเรียกบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ก็สงเคราะห์ลงในบุญกิริยาวัตถุ ๓ นั่นแหละ  ดังนี้
.........กลุ่มทานมัย มี๓ หัวข้อ ย่อย คือ ทานมัย ปัตติทานมัย(อุทิศบุญ) และปัตตานุโมทนามัย(อนุโมทนาบุญ)
..........กลุ่มศีลมัย แจกแจงได้ ๓ หัวข้อคือ สีลมัย (ปฏิบัติศีล) อปจายนมัย(ปฏิบัตินอบน้อบถ่อมตน) และ
เวยยาวัจจมัย(ขวานขวายในกิจสุจริตโดยชอบ) 
..........กลุ่มภาวนามัยมี ๔ หัวข้อได้แก่ ภาวนามัย (การฝึกอบรม) ธัมมัสวนามัย (ฟังแล้วเกิดบุญ) ธัมมเทศนามัย(บอกแนว ปฏิบัติให้เกิดบุญ) ทิฑฐุชุกัมม(ทำความเห็นให้ตรง) 
..........มาศึกษาดูบุญกิริยาวัตถุ แต่ละอย่างทำอะไรถึงเกิดบุญ ดังต่อไปนี้     
......... 1. ทานมัย  มีสองคืออามิสทาน กับ ธรรมทาน  ให้อามิสทาน คือให้สิ่งของ เกิดตัวบุญคือโลภะลดลง ให้ ธรรมทาน คือสิ่งเป็นนามธรรม เช่นให้ความรัก ความเมตตา แนะนำสั่งสอน  เกิดบุญคือ ความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว
..........2. ปัตติทานมัย  เกิดบุญจากความปรารถนาดี อุทิศ หรือร่วมอุทิศบุญ ให้แก่ผู้อื่น
..........3..ปัตตานุโมทนามัย (บุญอันเกิดจากการอนุโมทนา คือ บุญที่เกิดจากการตั้งจิตอนุโมทนาต่อบุญความดีที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว
..........4. สีลมัย บุญเกิดจากการปฏิบัติศีล เอาแค่ศีลห้าแล้วกัน บุญจะขัดเกลากายวาจาให้เราแบบไหน
เว้นการฆ่า ชำระใจจากโทสะ อาฆาตพยาบาท เว้นการลัก ชำระใจให้เคารพกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินผู้อื่น เว้นประพฤติผิดในกาม เคารพในความรักหวงแหนของบุคคลในครอบครัวผู้อื่น เว้นมุสา สื่อสารกับผู้อื่นโดยสัจจะ เชื่อถือได้ เว้นสุราเมรัย มีสติเข้มแข็งไม่ประมาท ....บุญจากศีลทั้งห้าอย่างชำระกายวาจาให้เราในชาตินี้แหละ ไม่ใช่รอไปชำระชาติหน้า เสียหายหมด
...........5. อปจายนมัย คือ บุญที่เกิดจากการรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะ ปฏิบัติแล้วเป็นบุญทันที
มีค่าอย่างยิ่งในสังคม ชุมชน ทุกระดับ
...........6. เวยยาวัจจมัย เกิดบุญจากการขวนขวายในกิจการงานต่าง ๆ โดยชอบ
 ...........7. ภาวนามัย  บุญเกิดจากการภาวนา คนที่ไปวัดบ่อยจะเห็นการปฏิบัติสมถะกรรมฐานบ้าง วิปัสสนากรรมฐานบ้าง  บุญที่เกิดคือ สมาธิ ฌาน และสติเข้มแข็งมากขึ้น ส่วนภาวนาที่หมายการอบรมด้วยวิธีศึกษาเล่าเรียน เรียนแล้วก็มีความรู้ ฉลาดมากขึ้น อาจมีหลักฐานแสดงให้เช่น นักธรรมตรี โท เอก เปรียญต่าง ๆ ทางโลกก็มีประถม มัธยม อุดมศึกษา เป็นหลักฐานยืนยันว่า ผ่านการภาวนาระดับไหน
ผลการภาวนาทั้งทางวัดและทางโลก เกิดในชาตินี้แหละ ไม่มีใครเรียนธรรม ไปจบนักธรรมเอกชาติหน้า หรือเรียน ม.ต้น จะไปจบ ม.๖ ชาติหน้า ดังนั้นใครจะบอกให้เรารอรับบุญชาติหน้า ฟังให้ดี กำลังโกหกหรือเปล่า เพราะบุญที่ทำเสียหายหมดเช่น ส่งลูกเรียนหนังสือ ไม่เอาความฉลาดรอบรู้ในปัจจุบัน แต่จะไปจบชาติหน้าครับลูกบอกอย่างนี้...โอเคไหม
............8. ธัมมัสสวนมัย (บุญอันเกิดจากการฟังธรรม)ธัมมัสสวนมัย คือ บุญที่เกิดจากการรับฟังธรรม อันก่อให้เกิดปัญญา และทางรู้แจ้งแก่ตน ฟังแล้วก็เกิดการเรียนรู้ เข้าใจ นั่นแหละบุญ เกิดทันทีในปัจจุบัน
............9. ธัมมเทสนามัย (บุญอันเกิดจากการแสดงธรรม)ธัมมเทสนามัย คือ บุญที่เกิดจากการแสดงหรือการสอนธรรมให้แก่ผู้อื่น เป็นการเจาะจงให้ธรรมทาน ให้คำแนะนำสั่งสอน
...........10. ทิฏฐุชุกรรมเกิดบุญจากการทำความเห็นให้ตรง คือทางที่ชอบด้วย ถูกต้องด้วยใต้พื้นฐานของเหตุ และผลที่เป็นจริง
........เล่ามายาวพอสมควรแล้ว ปีใหม่ใกล้มาแล้ว ก็แค่อยากเตือนลูกหลาน มิตรสหายให้ตื่นมากระทำบุญและรับผลบุญกันในชาติปัจจุบันกันเถอะ หลงผิดคิดทำบุญจะไปรับผลบุญชาติหน้ากันมานานแล้ว ผลบุญมันเสียหายหมด อย่างทานเพื่อละโลภ ละชาตินี้แหละ ศีลชำระกายวาจาให้สงบเรียบร้อย นี่ก็ชัดเจน สงบเรียบร้อยในชาตินี้แหละยิ่งภาวนามัย การอบรมศึกษาเล่าเรียน บุญคือความรู้ความฉลาด มีสติปัญญา รับผลชาตินี้แหละ ไปฉลาดชาติหน้าจะมีประโยชน์อะไร ทำบุญให้เกิดผลปัจจุบันนี่แหละดีที่สุด

1 ความคิดเห็น: