เอารูปสมัยบวชพระมาลงไว้ ถ่ายปี 2514-2515 ประมาณนี้
จำอยู่ที่วัดศรีบุญเรือง ต.กุดป่อง อ.เมือง จังหวัดเลย
........การเขียนเรื่องนางแตงอ่อนคำฉันท์ ก็เพื่อเป็นที่ระลึกปีเก่าปีใหม่ ๒๕๖๑---๒๕๖๒ อยากมีนิทานสักเรื่องที่เราเล่าเอง เล่าธรรมดา เดี๋ยวก็มีซ้ำกับคนอื่นเล่า เลยเลือกเล่าแบบคำฉันท์ รับรองไม่ซ้ำแบบใคร แต่ไม่สงวนนะหากใครจะเลียนแบบ มีแตงอ่อนคำฉันท์หลาย ๆสำนวนก็ดี แต่มั่นใจว่าไม่มีใครเอาอย่างหรอก เพราะฉันท์เป็นคำร้อยกรองที่คนกลัวกัน ไม่อยากแต่ง มีแต่ท่านมหาขุนทองนี่แหละ แกชอบแต่งเล่านิทานเป็นคำฉันท์ นี่เป็นเรื่องที่ 3 นะ เคยแต่งปลาบู่ทองคำฉันท์ ท้าวก่ำกาดำคำฉันท์มาแล้ว เลยมั่นใจว่า แต่งได้จบแน่ การแต่งหนังสือคำฉันท์ ก็จะมีกาพย์ ปะปนอยู่บ้าง ฉันท์ก็จะพยายามเลือกมาหลาย ๆฉันท์ เพราะมีให้เลือกตั้ง ๙๓ รายชื่อ เอามาแต่งซัก ๑๐ ฉันท์ ก็พอกล้อมแกล้มเป็นหนังสือคำฉันท์ได้แล้วน่า ลองดูนะครับ......และแล้ววันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ นางแตงอ่อนคำฉันท์ก็จบพอดี รวมเวลาที่แต่งเท่ากับ ๑๑ วัน
.....
ขุนทองศรีประจง
เริ่มคิดจะแต่ง ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑
| ๑. บทประณามคาถา | ||||
| สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ | ||||
| ...ขอกราบไหว้วรไตรคุณาสรณคมน์ | มือแนบจะนบพนม | |||
| ประคอง | ||||
| ...พานพุ่มสรรค์มะลิวัลย์จะทำมนตริตรอง | รำลึกพระคุณปอง | |||
| พระไตร | ||||
| ...องค์พุทโธสุคโตพระคุณอรหนัย | สุทธาพิเศษใส | |||
| พระคุณ | ||||
| ...ธัมมังรัตตนวัฒฒนานรเพราะหนุน | ก่อเกิดกุศลบุญ | |||
| พิมล | ||||
| ...สังฆังวันทนปูชิตังนมและบน | ขอพรและเพียบพล | |||
| จรูญ | ||||
| ...เลิกบาปกรรมมิทำจักสะสมกุสละพูน | เพิ่มบุญจะค้ำคูณ | |||
| เจริญ | ||||
| ...ล้างมลทินมนะจักสะอาดพิศะจะเพลิน | ปราศมลพิไลเกิน | |||
| ประมาณ | ||||
| ...ทำทานมัยละลุโลภตระหนี่ก็จะมิพาน | ไม่พบประสบนาน | |||
| พิบูลย์ | ||||
| ...สั่งสีลมัยละทุโทษจะเบามนะจรูญ | เย็นใจเพราะศีลกูล | |||
| ประเทือง | ||||
| ๒. ปรารภกถา | ||||
| ฉบัง ๑๖ | ||||
| ...ธันวาท้ายปีหกหนึ่ง | จงจิตคำนึง | |||
| บันทึกเรื่องราวทรงจำ | ||||
| ...ลองเขียนนิทานทางธรรม | ลองสรรค์ถ้อยคำ | |||
| นิทานแบบฉันท์คงดี | ||||
| ...เลือกดูเรื่องไหนหนอนี่ | มันมากมวลมี | |||
| นิทานพื้นบ้านของเรา | ||||
| ...เรื่องนางผมหอมนงเยาว์ | เคยหยิบมาเล่า | |||
| เป็นเรื่องกลกลอนจบไป | ||||
| ...นิทานศรีทะนนไชย | ก็เคยแต่งไว้ | |||
| โคลงกลเจ็ดสิบหกตอน | ||||
| ...พอดีเห็นเรื่องแตงอ่อน | ชอบใจงามงอน | |||
| เพียบพร้อมบุญญาบารมี | ||||
| ...ตกยากหลายครั้งนงศรี | รอดพ้นทุกที | |||
| กลับกลายจำรูญจำเริญ | ||||
| ...บางคราวทุกข์หนักเหลือเกิน | ขัดสนขาดเขิน | |||
| ผ่านพ้นด้วยบุญบันดาล | ||||
| ...สนใจอย่ากเล่านิทาน | แตงอ่อนนงคราญ | |||
| เขียนด้วยนิยมยินดี | ||||
| ...จะสร้างไว้เป็นบรรณา | ปีเก่าอำลา | |||
| หกหนึ่งถึงกาลผ่านไป | ||||
| ...หกสองมาถึงคงได้ | ของขวัญปีใหม่ | |||
| แตงอ่อนคำฉันท์สารา | ||||
| ...สิบสี่ลุวันธันวา | เริ่มจดปากกา | |||
| ร่ายบทไหว้ครูทันที | ||||
| ...ต่อด้วยปรารภวจี | บอกจุดหมายมี | |||
| จัดเป็นวรรณสารบูชา | ||||
| ...ปีเก่าหกหนึ่งถึงครา | ผันเปลี่ยนอำลา | |||
| ปีใหม่หกสองมาแทน | ||||
| ๓. เมืองศรีนคร | ||||
| สุรางคนางค์ ๒๘ | ||||
| โอ้ศรีนคร | ||||
| ดังเมืองอัมมร | พิลาสพิไล | |||
| กำแพงรายรอบ | ขอบคูยิ่งใหญ่ | |||
| มองมาแต่ไกล | ปราสาทรูจี | |||
| งดงามเวียงวัง | ||||
| บ้านเรือนสะพรั่ง | วัดวาเจดีย์ | |||
| กุฏิวิหาร | อาคารมากมี | |||
| สองข้างวิถี | สะอาดคูคลอง | |||
| ยามเช้าคลาคล่ำ | ||||
| ฝูงควายสีดำ | คนเลี้ยงทั้งผอง | |||
| ต้อนเดินตามทาง | ควายรู้มิต้อง | |||
| มันรู้ทำนอง | เดินตามคนไป | |||
| พวกล้อพวกเกวียน | ||||
| คลาคล่ำวนเวียน | วัวควายลากให้ | |||
| คนนั่งขับเชียว | ลดเลี้ยวทางวไหน | |||
| ชำนาญสั่งไป | วัวควายเดินตาม | |||
| ตลาดค้าขาย | ||||
| วันพระวุ่นวาย | แม่ค้าไถ่ถาม | |||
| ข้ามีหมากแตง | ขอแบ่งคนงาม | |||
| หมากฟักนงราม | แลกบ้างเป็นไร | |||
| ระบบของฝาก | ||||
| ประเมินมิยาก | แล้วแต่พอใจ | |||
| สองฝ่ายตรวจดู | ย่อมรู้แบบไหน | |||
| ตกลงแลกได้ | ค้าขายด้วยดี | |||
| เดือนละสองวัน | ||||
| ได้มาพบกัน | แลกเปลี่ยนวิถี | |||
| ค้าขายแลกของ | ถูกต้องย่อมมี | |||
| น้ำใจไมตรี | พังพี่น้องกัน | |||
| เสียงโปงกังวาน | ||||
| อ้อพระอาจารย์ | จักโปรดสัตว์สรรพ์ | |||
| หลวงพ่อนำหน้า | พระเณรสำคัญ | |||
| บิณฑบาตทั้งนั้น | ญาติโยมรอคอย | |||
| นักการสี่นาย | ||||
| ออกตรวจตามสาย | ถนนตรอกซอย | |||
| ชาวบ้านยินดี | เพราะมีคนคอย | |||
| ตรวจตราเรียบร้อย | บ้านเมืองสงบดี | |||
| ๔. ประชาชนชาวศรีนคร | ||||
| กาพย์ยานี ๑๑ | ||||
| ชาวศรีนคร | ประชากรก็มากมี | |||
| พวกอยู่ในบุรี | ก็มีมากหลากกลุ่มชน | |||
| พวกหนึ่งในวังเวียง | พ่อเมืองเลี้ยงมิสับสน | |||
| ทำงานให้เบื้องบน | ข้ารับใช้ท่านเจ้าเมือง | |||
| อีกกลุ่มพวกชาวบ้าน | มีเรือนชานชิดกันไป | |||
| นอกเมืองมีนาไร่ | ปลูกพืชผักไว้ทำกิน | |||
| นาไร่ใช้วัวควาย | เลี้ยงมากมายนับเป็นสิน | |||
| มีมากมิยากยิน | เรียกเศรษฐีมีวัวควาย | |||
| นาไร่ของเจ้าเมือง | มิได้เคืองท่านมอบหมาย | |||
| เสนาแต่ละฝ่าย | ถือครองนาไปจัดการ | |||
| จัดคนทำนาไร่ | มอบหมายไปรอประสาน | |||
| ชักผลพอประมาณ | ส่งมอบไปให้เจ้านาย | |||
| เจ้าเมืองท่านพอใจ | รับคืนไปได้คุณหลาย | |||
| รับไว้ไม่มากมาย | คืนให้เขารับเอาไป | |||
| เจ้าเมืองท่านเมตตา | ชาวประชาสุขไฉน | |||
| ยามเกิดเหตุเภทภัย | ระดมคนได้ทันที | |||
| น้ำท่วมหรือไฟไหม้ | ระงับภัยขมันขมี | |||
| ยามศึกเรียกพลพลี | ชีพช่วยทัพจับศึกกัน | |||
| นับนานไร้สงคราม | อยู่ตามสงบสรรพ์ | |||
| ชาวศรีนครนั้น | ล้วนร่มเย็นเป็นสุขแลฯ | |||
| ๕. ชาวศรีนครนอกกำแพงเมือง | ||||
| อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ | ||||
| นอกเขตนครศรี | ก็จะมีหนองประแส | |||
| เป็นบึงและรวมแคว | และชลาก็เนืองนอง | |||
| ปูปลาก็มีมาก | นรหากจะใคร่ลอง | |||
| ลงบึงประมงต้อง | จะลุลาภเพราะจับปลา | |||
| เครื่องมือก็ไม้รวก | แหละฉมวกจะสรรหา | |||
| เสี้ยมแหลมก็ดัดมา | และจะลนและดัดตรง | |||
| แห้งแล้วจะใช้ซัด | ก็สะบัดมิลืมหลง | |||
| ไปบึงเลาะเลียบวง | ก็จะแทงและจับปลา | |||
| บางคนก็มือเปล่า | จะคลำเอาแสวงหา | |||
| ลงน้ำและงมมา | ก็จะได้เพราะมากมาย | |||
| ทุกวันจะมากคน | จะเลาะวนเสาะสืบสาย | |||
| หาปลาก็วุ่นวาย | ก็ลำบากและยากเย็น | |||
| เครื่องมือแหละไม่มี | ก็วิถีจะคงเห็น | |||
| มือเปล่าเพราะจำเป็น | จะประมงยถากรรม | |||
| ผักบุ่งและกะเฉด | ก็วิเศษละไข่ผำ | |||
| คันจองแหละตีนจำ | ระดะดาดก็มากมี | |||
| หากินประชาราษฎร์ | ก็ฉลาดเสาะวิธี | |||
| ผักปลาเสาะจงดี | ก็มิอดเพราะมากมาย | |||
| สมบูรณ์นครศรี | บมิมีจะค้าขาย | |||
| อยู่กันสะดวกดาย | ก็สงบสถาพร ฯ | |||
| ๖. เจ้าเมืองศรีนคร | ||||
| ตนุมัชฌาฉันท์ ๖ | ||||
| อันเจ้าปติจอมราช | องอาจนิตินาคร | |||
| นามว่าอติภูธร | โกศรีกิติเลิศชัย | |||
| ทรงคุณมหบารมี | รานีศิริโฉมนัย | |||
| เทียมอัปสระอำไพ | ทรงนามพระสุพรรณี | |||
| รูปงามมนทรงคุณ | ใจบุญปิติทรงศรี | |||
| เมตตากรุณามี | ทรงคุณศิรินวลนงต์ | |||
| โอรสปฐมานาม | ตามตั้งพระมหาวงศ์ | |||
| เป็นนักจรไพรพง | เข้าป่าพระก็เดินไพร | |||
| เทียวชมชละรุกขา | ธาราก็จะแลไหล | |||
| รวมหลั่งเลาะและเลียบไป | ชุ่มชื้นและฉ่ำพฤกษ์พง | |||
| มักชอบสืบเสาะไก่ป่า | แลหาและก็ไหลหลง | |||
| จับได้ก็มิดีตรง | มันตายเพราะธนูยิง | |||
| ได้เห็นคณะต่อไก่ | จับได้ก็มิตายจริง | |||
| พอใจก็มิยอมนิ่ง | ไปฝึกชำนิชำนาญ | |||
| ลองเองพระมหาวงศ์ | เข้าพงเสาะเลาะฮึกหาญ | |||
| ต่อไก่ก็จะเชิงชาญ | จนติดประจำชอบใจ | |||
| บางคราวก็เลาะหลงป่า | วนมาก็มิสงสัย | |||
| หลายวันจระวนไป | เจอไทรก็แวะพักนอน | |||
| ริมฝั่งณนทีเห็น | ร่มเย็นอุระทอดถอน | |||
| หลับไหลปิติอาวรณ์ | ฝันเห็นศิริกัญญา | |||
| ๗. นางแตงอ่อนถือกำเนิด | ||||
| กุมารลลิตาฉันท์ ๗ | ||||
| จะกล่าวสุดรุนีนวล | ก็ชวนปิยะสเนหา | |||
| เพราะโฉมศิริสคราญตา | บิดาก็จระเข้นวล | |||
| มีนามพระนุชะแตงอ่อน | และค่อนจะศิริโฉมควร | |||
| จะเปรียบก็ดุจะพร้อมมวล | เพราะรูปและกิริยางาม | |||
| มนุษย์ปิตุดิรัจฉาน | เพราะทานกุสละส่งตาม | |||
| ก็เกิดสหชนกยาม | จะเกิดยุวธิดานาง | |||
| เจริญวยะสะสวยยิ่ง | และมิ่งสิริสุภาทาง | |||
| มนุษย์และกิริยาวาง | สง่าจริยะบทนวล | |||
| ก็ลือแหละพระสมุทรมี | สตรีพระศิริโฉมควร | |||
| แหละเลิศติภวะล่มลบ | ลุไตรก็บมิเทียมทัน | |||
| ละอ่อนยุวธิดาสาว | ลุคราวจะพิสมัยสรรพ์ | |||
| ก็ใครมนุสะผูกพัน | และควรจะอภิเษกนาง | |||
| และล่วงลุวรดิถีกาล | ก็ผ่านและก็มิอาจสาง | |||
| จะได้ปะอภิเษกบ้าง | ก็รอพระจะประกาศงาน | |||
| ลุล่วงทิวะและเดือนปี | มิมีวรกระแสสาน | |||
| จะเกิดอริยะบันดาล | และสุขนรจะพอใจ ฯ | |||
| แต่งต่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๑) | ||||
| ๘. เจ้าชายมหาวงศ์เดินป่า | ||||
| จิตปทาฉันท์ ๘ | ||||
| ปางพระกุมาร | พระก็ชาญนัย | |||
| ชอบจะเลาะไพร | จรเนืองเนือง | |||
| ไปก็จะนาน | และละบ้านเมือง | |||
| เหนื่อยและก็เปลือง | วิริยาเดิน | |||
| ปลาณนที | ก็จะมีเกิน | |||
| และก็จะเพลิน | ชมคณนา | |||
| งามนะตะเพียน | เสาะและเวียนหา | |||
| คู่และก็พา | เลาะละล่องลอย | |||
| ดุกและชะโด | ก็จะโผล่คอย | |||
| เหยื่อแหละจะพลอย | จะละชีพวาย | |||
| ช่อนก็จะอวด | เลาะและลวดลาย | |||
| เจอบมิคลาย | ปะแมลงมี | |||
| เขียดและตะปาด | บมิพลาดหนี | |||
| ฮุบตะละที | ก็ระเริงใจ | |||
| งามนะสลิด | และจะชิดใคร | |||
| เต่าตุตะไต่ | เลาะและคืบคลาน | |||
| กบก็จะตาม | และละโลดลอย ฯ | |||
| ๙. ท้าวมหาวงศ์หลงป่า | ||||
| วิชชุมาลาฉันท์ ๘ | ||||
| ท่านท้าวชอบไพร | ไปมาบ่อยบ่อย | |||
| ไก่ป่าไม่น้อย | ชอบสืบค้นหา | |||
| ชอบเดินเพลินไพร | เทียวไปเดินมา | |||
| ชมนกชมปลา | แมกไม้ไพรพง | |||
| อุ้มไก่ตัวล่อ | หวังต่อให้หลง | |||
| พวกไก่ในดง | ถูกล่อเรียกมา | |||
| วางตุ้มไก่บ้าน | ครืนควานล้วงหา | |||
| ดักรอบตุ้มว่า | แบบนี้ดีเทียว | |||
| หักกิ่งไม้เผียด | พะเนียดแลเหลียว | |||
| อยู่กลางวงเชียว | ใบไม้ปิดบัง | |||
| ยามไก่ต่อขัน | เสียงมันโด่งดัง | |||
| ไก่ป่าพอฟัง | โมโหโกรธา | |||
| ใครมันบังอาจ | สามารถลูหนา | |||
| เขตนี้ของข้า | ฮาเรมของกู | |||
| แบบนี้ต้องเบ่ง | นักเลงหรอสู | |||
| เดียวเองจักรู้ | โดนเตะเช่นไร | |||
| ชวนสาวรี่หา | ปรีมาสงสัย | |||
| ยังขันอยุ่ได้ | เตะเลยเตะเลย | |||
| วิ่งถีงแนวเผียด | เฉียดครืนไปมา | |||
| มินานหมดท่า | ติดบ่วงหลายตัว | |||
| ท้าวมหาวงศ์หนุ่ม | เดินดุ่มแย้มหัว | |||
| ต่อไก่ไปทั่ว | สนุกเพลิดเพลิน | |||
| วันหนึ่งหลงป่า | หลงมาเขาเขิน | |||
| พวกพ้องบังเอิญ | เดินแยกกันไป | |||
| แต่เช้าจนสาย | ยามบ่ายเหนื่อยไฉน | |||
| แวะพักร่มไทร | ริมน้ำร่มเงา | |||
| ๑๐. พบรักแต่งอ่อน | ||||
| มาณวกฉันท์ ๘ | ||||
| จรก็จะเนิ่น | เดินเลาะและเช้า | |||
| บ่ายก็มึนเมา | เหนื่อยแหละหลับนอน | |||
| สาวละก็งาม | นามหละนะอร | |||
| สวยดังอัปสร | ไม่พูดไม่จา | |||
| ท้าวไม่รีรอ | พอพบกานดา | |||
| รวบรัดไขว่คว้า | กอดรัดฟัดฟอน | |||
| สองสมเสพสม | ชื่นชมสายสมร | |||
| พัลวันสี่กร | วุ่นวนวุ่นวาย | |||
| ผ้าผ่อนหลุดลุ่ย | ฮาหุยโฉมฉาย | |||
| คนเขาเอียงอาย | ล่อกันทำไม | |||
| เจ้าหนุ่มหน้าทน | ชอบกลไฉน | |||
| ปะเปลือยอยู่ได้ | ไม่เอาไม่เอา | |||
| อีกหน่อยอีกหน่อย | รอคอยโฉมเฉลา | |||
| อย่าอายเลยเจ้า | ยั่วเย้ายวนยี | |||
| ดึกดื่นค่อนคืน | พอตื่นนวลฉวี | |||
| หายวับทันที | เทพอุ้มจากไป | |||
| รอยบุญปางก่อน | แตงอ่อนทรามวัย | |||
| เป็นคู่กันไซร้ | เทพท่านเมตตา | |||
| อุ้มสมสองสู่ | เป็นคู่กันหนา | |||
| ดึกดื่นก็พา | นวลนางกลับไป | |||
| สองรักโหยหา | แก้วตาอยู่ไหน | |||
| สองเกิดรักใคร่ | ลึกล้ำตรึงตรา | |||
| หลายวันเจ้าหนุ่ม | กลุ้มใจนักหนา | |||
| วานคนให้มา | ดำน้ำตรวจดู | |||
| เขาขึ้นมาเล่า | พบเยาว์นวลหนู | |||
| แตงอ่อนโฉมตรู | ลูกสาวกุมภีร์ | |||
| เมื่อรักปักใจ | มิได้หน่ายหนี | |||
| เลือกแหละนางนี้ | จักแต่งกับนาง | |||
| ๑๑. อภิเษกแตงอ่อนเป็นราชินี | ||||
| สมานิกาฉันท์ ๘ | ||||
| ทางหนุ่มก็กลุ้มและกลับลุ | หทัยระอุรักก็เจ็บ คุ | |||
| กลับและถึงนิคมก็ปวดระอุ | วอนและวานบิดาจะแต่งนะ | |||
| แตงละอ่อนเพราะรักและหลงมุ | พ่อและแม่คุณากรุณจะ | |||
| สู่และขอพระนางอนงค์คะ | ลูกก็หลงละเมอและรักอุ | |||
| เอกกะนุชก็ล้นก็เหลือผิ | จะเทียบก็ปริดุจหอกทะลุ | |||
| อกก็เจ็บและเหน็บและปวดคุ | กรุ่นและวุ่นทุรนทุรายเละ | |||
| ขอบิดากรุณและช่วยตริ | พ่อแหละดำริขอสะใภ้เพราะ | |||
| ข้อยมิอาจจะทนกระแสเดาะ | อกก็ยิ่งเปราะแตกระเบิดนะ | |||
| บ่นกระวนกระวายจะตายและ | ปากพะงาบแบะตาแหละชักซะ | |||
| พ่อก็บ่นวิตกวิจารณ์ชะ | ตายก็ดีมิยุ่งมิยากแหละ | |||
| แม่มิอาจจะทนก็วอนก็วานเถอะ | เฒ่าก็อย่าเลอะลูกนะอย่าแดะ | |||
| ท้ายก็ยอมจะสู่จะขอละอ่อนแนะ | แตงละอ่อนสะใภ้สะใจจุ | |||
| ลูกก็สุขสบายและคลายเบะ | แม่เคาะหัวเละแกก็อย่าลุ | |||
| สองก็สมสุขาภิรมยคุ | ไฟก็ลามลุอกระทมและ | |||
| ครองภิรมย์และรักระรื่นนะ | ปลื่มมิลืมจะขอบพระคุณแตะ | |||
| กราบบิดากะแม่เพราะท่านแนะ | สอนและสั่งอเนกอนันต์นะ ฯ | |||
| 12. เศรษฐีเฒ่าอัยยกา ถวายลูกสาวทั้ง ๕ นาง | ||||
| ปมาณิกาฉัน์ ๘ | ||||
| จะกล่าวตำนาน | ก็ท่านผู้เฒ่า | |||
| เพราะนามแหละเขา | ก็อัยยกา | |||
| ก็รวยแหละทรัพย์ | จะจับจะหา | |||
| ก็มีก็มา | สะดวกสะบาย | |||
| ธิดาก็มี | สุภีและฉาย | |||
| ละนางก็คล้าย | กะเทพอนงค์ | |||
| จะนับก็ห้า | สุดาระหงส์ | |||
| แหละเฒ่าก็งง | จะหานะคู่ | |||
| ก็เลือกก็สรร | ลุวันน่ะหนู | |||
| ก็ยากมิรู้ | จะเลือกจะตรอง | |||
| มิมีมิควร | ก็ชวนจะหมอง | |||
| จะจับจะจอง | น่ะเขยน่ะใคร | |||
| ก็เลยจะยก | สถานะใส | |||
| จะยกจะให้ | พระเจ้าพนาย | |||
| มหามหงส์ | ก็คงสบาย | |||
| ก็ยกถวาย | พระองค์อำนวย | |||
| และนางก็ห้า | สุภาแหละสวย | |||
| ระทึกระทวย | ลุราชีนี | |||
| สุโขสุขา | ลุมาลุปี | |||
| ภิรมย์ฤดี | สถิตนิรันดร์ | |||
| ๑๓. แตงอ่อนประสูติโอรส กลับเป็นจรเข้ | ||||
| (๑๐). สุทธวิราชิตฉันท์ ๑๐ | ||||
| นางแต่งอ่อนมหิสี | ก็มีสุโข | |||
| อยู่ครองเมืองสุมโน | จรูญเจริญ | |||
| นางทรงครรภ์ปิตินัก | ก็มักจะเพลิน | |||
| ชนชื่นชมศิริเกิน | ก็เยินก็ยอ | |||
| ห้าชายาก็วิตก | จะแกล้งแหละหนอ | |||
| ข่มเหงนางจะมิรอ | ตริแผนทำลาย | |||
| จัดเตรียมคนกระทำการ | แบบพาลสลาย | |||
| จะปลิดชีพกะจะตาย | ก็บุตรพระนาง | |||
| อีกคนว่าพระธิดา | จะเข้คือทาง | |||
| ชาติเกิดมาบมิจาง | และบุตรก็ควร | |||
| เป็นแข้แน่นะกุมาร | ตริการสงวน | |||
| เปลี่ยนลูกนางก็จะป่วน | จะเข้ก็มี | |||
| ถึงวันคลอดก็จะปวด | จะรวดฉวี | |||
| เช้ายันเย็นก็กลี | แหละปิดนะตา | |||
| ไม่เห็นดีมิเจ็บ | ก็เหน็บยุพา | |||
| เปลี่ยนลูกนางและก็หา | จะเข้แหละแทน | |||
| ลูกหลานแข้แหละก็แข้ | ก็แน่เพราะแถน | |||
| ส่งแข้จากวรแดน | สวรรค์ประทาน | |||
| ลือนางแตงนะละอ่อน | ก็ตอนณวาน | |||
| คลอดออกมานะกุมาร | จะเข้จะโขง | |||
| ลูกนางเขาก็จะทิ้ง | และชิงจุโลง | |||
| กล่องเด็กอ่อนก็โปง | ก็ชิดและไป | |||
| ทิ้งนอกเมืองเพราะขุ่น | เพราะบุญไฉน | |||
| เทพเห็นโหดจะลุภัย | ก็ช่วยกุมาร | |||
| เลี้ยงดูอยู่ ณ สวรรค์ | แหละสรรค์ผสาน | |||
| เติบโตมาก็สราญ | ลุวันลุคืน ฯ | |||
| ๑๔. แตงอ่อนถูกขับออกจากเมือง | ||||
| (๑๒) รุมมวดีฉันท์ ๑๐ | ||||
| ท้าวธมหาหงส์ | หลงจรป่าเขา | |||
| กลบก็เจอะนงเยาว์ | ห้าทุรวาจา | |||
| แตงน่ะมิใช่คน | จนปะกะหูตา | |||
| คลอดจระเข้มา | ใครก็มิเคยเจอ | |||
| นี่จะกะลีแน่ | แท้นะคะเธอ | |||
| ยินตะละนางเพ้อ | ไม่ตริมิตรอง | |||
| เชื่อมุหะโสโส | โมหะดุด่าปอง | |||
| ไล่และจะขับไป | จากคหะเราแก | |||
| แตงก็วิตกนัก | พักจะประสูติแน่ | |||
| เสียงอุแอะแม่แม่ | ดังพระกุมารเห็น | |||
| ใยจะจะเข้ได้ | ใครจะกะเปลี่ยนเป็น | |||
| เขาก็มิฟังนาง | ต่างก็กะลีลือ | |||
| ไปซะซิแตงอ่อน | ร้อนนรชนถือ | |||
| ขืนจะมิหนีดื้อ | เดี๋ยวก็จะฆ่านาง | |||
| คนมุหะบ้าคลั่ง | ชังแหละกะลีสาง | |||
| เขาก็จะขับอ้าง | อยู่แหละกะลีคน | |||
| นางก็วิตกจริง | นิ่งบมิอาจทน | |||
| จำจะละหนีบ้าง | นางจรจากมา | |||
| มุ่งชละบ้านเกิด | เลิศปะพระเชษฐา | |||
| ถามสุขะทุกขา | เจ็บอุระเอ็นดู | |||
| ตอนที่ ๑๕................. | ||||
| ๑๔. จัมปกมาลาฉันท์ ๑๐ | ||||
| เชษฐกถา | แตงมาปิติยินดี | |||
| เบื่อละนะพี่ | มันแก่และชราวัย | |||
| จักสละราช | อำนาจก็จะเลิกไข | |||
| ลูกก็จะได้ | ครองพระนครแทน | |||
| อยากจะผนวช | บวชเป็นพระฤษีแสน | |||
| จะสุขะแดน | พงพีจะสุขารมณ์ | |||
| แตงก็วจี | ท่านพี่สละดีสม | |||
| บวชละจะชม | ทางบุญและสั่งบารมี | |||
| แตงก็จะบวช | จักกวดจะสะสมศรี | |||
| กุสละดี | หวังบุญนิธิเพิ่มพูน | |||
| สองพระกนิฐ | ต่างคิดสละไอศูรย์ | |||
| ก่อวรกูณฐ์ | มุ่งป่าหิมพานต์ไพร | |||
| ดาบสินี | กับพี่พระฤษีไฟ | |||
| เพ็ญตบะไกล | ห่างเมืองก็สงบดี | |||
| สีลและจะพลี | บำเพ็ญปิติรื่นรมย์ | |||
| นานสุขะสม | สุขสันต์ศิรินับนาน ฯ | |||
| ๑๖. แตงอ่อนถูกลักพาตัวไปเมืองยักษ์ | ||||
| กาพย์ยานี ๑๑ | ||||
| กล่าวหัสจักรยักษา | พารานามนันทพาน | |||
| เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ | ชอบเที่ยวป่าดงพงไพร | |||
| เหาะเหินบนอากาศ | ประพาสแดนดินถิ่นไหน | |||
| ล่องลอยเลาะเลียบไป | ดังขี่เมฆาพาเพลิน | |||
| ท่องไปในหิมวันต์ | ไพรสัณฑ์มากมายเขาเขิน | |||
| สะดุดตาเกิน | หว่างเขามีโล่งลานไพร | |||
| อาศรมสองหลัง | และยังมีคนไฉน | |||
| พวกพระฤๅษีนี่ไง | ชายหญิงสองคนแปลกดี | |||
| แอบดูรู้เรื่องเขา | นงเยาวน้องสาวนวลศรี | |||
| ผู้ชายคือคนพี่ | อดีตเป็นพระราชา | |||
| สตรีเธองดงาม | ยักษ์ตามแอบสิเนหา | |||
| ยิ่งดูก็ยิ่งบ้า | จนต้องแอบลักพาไป | |||
| ตั้งเป็นมเหสี | อยู่ที่เมืองยักษ์แขไข | |||
| บุญหนักเจ้าศักดิ์ใหญ่ | เจ้าแม่เมืองยักษ์แตงงาม | |||
| อยู่กับยักษาก็ดี | สุขีใครใครเกรงขาม | |||
| บุญกรรมนำติดตาม | เป็นเมียยักษาอยู่นาน | |||
| ๑๗. ท้าวสุริยวงศ์บุตรชายแตงอ่อนช่วยมารดา | ||||
| ๑๒. รุมมวดีฉันท์ ๑๐ | ||||
| สืบคติเรื่องราว | คราวจะประสูตินั้น | |||
| สับจระเข้กัน | แทนพระกุมารไป | |||
| เขาก็จะฝัง | ดับพระกุมารให้ | |||
| ชีพก็จะสิ้นใจ | สมอำมหิตคน | |||
| บุญพระกุมารมี | ดีเพราะพระอินทร์บน | |||
| ทิพยพิมานมนต์ | ส่องก็ปะเหตุการณ์ | |||
| หากจะมิช่วยเจ้า | เยาว์ก็จะวายปราณ | |||
| สั่งยุวนงคราญ | เทพศิริกัญญา | |||
| รับบริบาลไว้ | ดุจพระกุมารหนา | |||
| นางปิติบุตรา | ปลื้มอุระยินดี | |||
| เลี้ยงพระก็เติบใหญ่ | วัยก็เจริญมี | |||
| นามสุริวงศ์ชี้ | เทพกรุณามวล | |||
| สิกขวิชา | อาคมะสมควร | |||
| ท้าวก็ฉมังล้วน | เก่งและฉลาดชาญ | |||
| เหาะจรเทียวไป | ทั่วณสวรรค์หาญ | |||
| ลงปฐพีพาน | พบพระนครตน | |||
| พบพระบิดาไท้ | ได้ปิติยินยล | |||
| เรื่องณอดีตคน | บอกพระกุมารมี | |||
| ท้าวธมาหหงส์ | ทรงปิติด้วยดี | |||
| ทราบพระมหิสี | ถูกลุกะโทษทัณฑ์ | |||
| แตงนะละอ่อนเจ้า | เขาก็จะแกล้งสรรค์ | |||
| เรื่องบมิจริงครัน | จนจรจากไป | |||
| ท้าวสุริวงส์สาว | ข่าวก็จะทราบไข | |||
| แตงพระก็จากไกล | ยักษ์แหละนำจร | |||
| ๑๘. ท้าวสุริยวงศ์รบชนะยักษ์ ได้เป็นเจ้าเมืองยักษ์ | ||||
| ๑๓. มัตตาฉันท์ ๑๐ | ||||
| ท้าวยินเรื่องราว | คติและก็คราวมี | |||
| เหตุร้ายย่ำยี | ช้ำพระอุระปาน | |||
| ทิ่มแทงปวดใจ | ชิชะก็จะไปราน | |||
| เมืองนันทพาน . | กะจะวธะมารา | |||
| จับแม่กูไป | กุธะทุสะไฟบ้า | |||
| เดือดนักจักฆ่า | อสุระมลายสูญ | |||
| ท้าวรีบเหาะเหิน | แหละเลาะดำเนินพูน | |||
| มินานเขาปูน | ระดะระยะเขตเมือง | |||
| เหินบนเวหา | ตะบะก็จะนึกเคือง | |||
| ท้าทายหาเรื่อง | อสุระจะขลาดเขลา | |||
| กูมาจักตัด | หทยะและรัดเกล้า | |||
| หดหัวหลบเงา | ภยะก็จะถึงตัว | |||
| หัสจักยักษา | ทุสะอุระน่ากลัว | |||
| อ้ายคนชาติชั่ว | ทุระนะวจีมึง | |||
| เดี๋ยวจักตามถีบ | ริจะยุจะรีบดึง | |||
| คอหลุดบ่าทึ้ง | และจะสละหมาไป | |||
| มินานรบกัน | เฉาะฉะเผียะเผียะฟันใส่ | |||
| เปรี้ยงปร้างดังไฟ | อติยะวิเวทมนต์ | |||
| ครี่งค่อนวันผ่าน | อสุระมิทานทน | |||
| พ่ายเดชของคน | สุริยะกุมารไกร | |||
| ยอมรับเป็นข้า | อติยะพระเวทย์ใหญ่ | |||
| เกินจักรับได้ | พระสติวิชาชาญ | |||
| เชิญพระเป็นเจ้า | กรุณะพระเยาว์หาญ | |||
| เป็นผู้นำบ้าน | นรปิติชื่นชม ฯ | |||
| ๑๙. ท้าวมหาวงศ์ ต้อนรับสุริวงศ์และนางแตงอ่อน | ||||
| ๑๔. จัมปกมาลาฉันท์ ๑๐ | ||||
| ท้าวสุริวงศ์ | ยามลงปฐพีมา | |||
| ผ่านนครา | ท้าวมหวงศ์ชัย | |||
| บินทะลุเมฆ | เป็นเอกบมิกลัวใคร | |||
| ชนก็จะไข | พลยิงเจาะธนูพลัน | |||
| ลูกแหละธนูแปลก | กลับแยกกละเทพสรรค์ | |||
| เป็นผลนั้น | เก็บกินก็อร่อยดี | |||
| ท้าวก็จะยิง | ทุกสิ่งก็จะเปลี่ยนสี | |||
| เป็นมะลิมี | กลิ่นหอมฤจะบูชา | |||
| รบก็ลุบ่าย | ยิ่งคล้ายกะจะปริศนา | |||
| งงและจะจา | หยุดถามก็เพราะแปลกใจ | |||
| ท้าวมหวงศ์ | มึนงงมะลิกองใหญ่ | |||
| ยิงก็ไฉน | เป็นบุษปะงดงาม | |||
| สองก็ปะหน้า | พาทีพระก็ทักถาม | |||
| ชื่นอุระยาม | ได้ทราบพระกุมารวงศ์ | |||
| แท้ก็เพราะบุตร | แสนสุดปิติชวนองค์ | |||
| บุตรจรตรง | เข้าเมืองจะเฉลิมขวัญมี | |||
| สองปิตินัก | ยิ่งรักและยินดี | |||
| ทราบคติศรี | แตงอ่อนชำระผิดไป | |||
| นางลุกะบาป | ก็ทราบคติเหตุไฉน | |||
| ผิดก็เพราะให้ | เรื่องร้ายบมิสมควร | |||
| ห้ามหิสี | ไม่ดีกระทำจนป่วน | |||
| คอก็จะด้วน | จงหนีจรจากไป | |||
| ลูกแหละจะหา | มารดาฤจะอยู่ไหน | |||
| เชิญพระจะได้ | คืนกลับพระนคร ฯ | |||
| ๒๐. หัสจักรยักษ์ลักพาแตงอ่อนไปอยู่เมืองนันทพาน | ||||
| อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ | ||||
| ยักษ์หัสจักรา | ก็จะมาพเนจร | |||
| เดินป่าและแรมรอน | หิมวันต์ก็ชอบไป | |||
| เหาะผ่านสนามหญ้า | และก็พาประหลาดใจ | |||
| ศาลาก็เคียงใกล้ | เอ๊ะไฉนมิเคยเห็น | |||
| นานแล้วมิมีคน | ก็จะวนและสืบเล่น | |||
| กินคนมิยากเย็น | เพราะละมั่งก็ยังเคย | |||
| ยักษ์หนุ่มก็ซุมมอง | ก็เจอะน้องละอ่อนเอ๋ย | |||
| พิมพ์นวลก็ชวนเชย | แหละก็หลงสเน่ห์นาง | |||
| เหาะผ่านก็แอบมา | ก็จะหาจะเห็นบ้าง | |||
| รักเจ้ามิจืดจาง | ก็ทวีละอ่อนอวน | |||
| นับวันจะกลัดอก | บมิตกคะนึงหวน | |||
| โหยหาคะนึงนวล | ก็มิอาจจะทนทาน | |||
| จำลักละอ่อนไป | และจะให้พิเศษหาญ | |||
| มนต์ดำก็เสกพาล | ก็จะหลงและรักกัน | |||
| ลืมตัวสวาทยักษ์ | ปิติรักนิยมสรรพ์ | |||
| เสพสมแหละสัมพันธ์ | กละเป็นพระสามี | |||
| ๒๑. ท้าวเกศสุริยนยาน ทราบข่าวแม่ถูกยักษ์ลักพาตัวไป ตามไปช่วย | ||||
| กาพย์ยานี ๑๑ | ||||
| เกศสุริยนยาน | ได้พบพานข่าวมารดา | |||
| แตงอ่อนถูกยักษา | จับตัวไปนันทพาน | |||
| รู้สึกพิโรธนัก | เจ้าพวกยักมันระราน | |||
| ผู้คนเพียงชาวบ้าน | ไม่มีเดชจึงรังแก | |||
| แบบนี้ต้องสั่งสอน | ให้ม้วยมรณ์มิแบแส | |||
| ล่วงฟ้าเลาะเลียบแล | อยู่ตรงไหนบ้านเมืองมัย | |||
| นับนานก็ล่วงถึง | ตะลึงมองเมืองกว้างใหญ่ | |||
| ชว้างขวานครอบคลุมไป | เมืองมิดมิดดังค่ำคืน | |||
| ระเบิดดังตามมา | แสงสายฟ้าเปรี้ยงเปรี้ยงดัง | |||
| มวลยักษ์ต่างขาดกลัว | หลบกันทั่วหาเจ้าเมือง | |||
| เจ้ายักษ์หัสจักร | ชักรู้แล้วใครขุ่นเคือง | |||
| ฤทธิเดชก็ฟูเฟื่อง | มาท้ารบกูมักลัว | |||
| เหาะขึ้นบนอากาศ | เข้าฟันฟาดพล่างอย้มหัว | |||
| ที่แท้เด็กอวดตัว | ว่าตนเก่งท้ารบเรา | |||
| เอาไปแสงส้ายฟ้า | สะท้อนมากระเด็นไกล | |||
| เอ๊ะเวทย์มันก็แกร่ง | ปะทะแรงชักสงสัย | |||
| ไม่ยอมเพิ่มเวทย์ไป | อีกย้อนมาหนักเหลือเกิน | |||
| แต่เช้าเข้ายามย่าย | เหนื่อยแทบทายยักษ์ประเมิน | |||
| พ่อหนุ่มยักษ์ขอเชิญ | พักพูดจาเหตุอันใด | |||
| ท้ารบบ้านเมืองยักษ์ | มิรู้จักเหตุไฉน | |||
| ต้องการสิ่งของใด | หรือหลงรักยักษ์สาวงาม | |||
| กพูดจาดีย่อมได้ | ว่ายังไงขอไถ่ถาม | |||
| พอรู้เรื่องติดตาม | แม่แตงอ่อนหนาวเหน็บใจ | |||
| ที่สุดก็ยอมแพ้ | ยอมคืนแม่มิสงสัย | |||
| มอบบ้านเมืองกรุงไกร | เป็นเมืองขึ้นแต่โดยดี | |||
| ๒๒. ท้าวมหาวงศ์รับนางแตงอ่อนกลับเมือง ขับห้านางคนร้ายออกจากเมืองไป | ||||
| อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ | ||||
| ท้าวเกศสุริยน | เหาะลุบนเลาะล่วงมา | |||
| กลับเมืองพระบิดา | พระมหาสุวงศชัย | |||
| ห้านางกระทำชั่ว | แหละมิกลัวจะบาปไหม | |||
| คนคลอดจะเข้ได้ | เพราะจะแต่งแสดงความ | |||
| หาเรื่องพระแตงอ่อน | ทุรย้อนและบาปตาม | |||
| ถูกไล่ลุจากคาม | มิประหารก็หนักพอ | |||
| ขอโทษพระแม่แตง | เพราะแสดงแหละคอยหงอ | |||
| หูเบามิหนักพอ | กระทำพลาดและล่วงเกิน | |||
| แต่นี้จะรักใคร | จะมิให้ทำขาดเขิน | |||
| ฮักแพงนะแตงเชิญ | ภคินีสบายใจ | |||
| ตำแหน่งมเหสี | ก็จะมีพระนวลไข | |||
| เป็นเอกตลอดไป | นะพระแม่ละอ่อนแตง | |||
| สมโภชและรับขวัญ | อภินันท์ลุเขตแขวง | |||
| ชาวเมืองก็แสดง | ปิติชื่นและอวยพร | |||
| ขอทรงพระเจริญ | แหละจรูญสโมสร | |||
| ทรงเป็นพระมารดร | นครานิรันดร์เทอญฯ ฯ | |||
| ๒๓. สรุปการแต่งนางแตงอ่อนคำฉันท์ | ||||
| กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ | ||||
| กระผมขุนทอง | คนกรองคำฉันท์ | |||
| แตงอ่อนสำคัญ | เก้าวันพอดี | |||
| ธันวาหกหนึ่ง | ลุถึงสิบสี่ | |||
| วันคิดอยากมี | หนังสือร้อยกรอง | |||
| เป็นสารระลึก | เมื่อตรึกก็เพียร | |||
| เริ่มขีดจักเขียน | จำเนียรสนอง | |||
| แต่งเติมคำฉันท์ | เสกสรรค์คระลอง | |||
| แต่งตามตริตรอง | ยี่สิบสองตอน | |||
| นิทานจบลง | จำนงเดิมมี | |||
| ตรวจทานหลายที | แก้ดีบทกลอน | |||
| เหนื่อยนักพักไว้ | วันไหนอาวรณ์ | |||
| นิทานแตงอ่อน | หยิบมาอีกที | |||
| คงเห็นตำหนิ | ผลิดอกออกบาน | |||
| ได้แก้จนคร้าน | แน่นอนเชื่อเลย | |||
| พักลงปลงไว้ | หลบไปเฉยเฉย | |||
| หยุดทานเช่นเคย | วันหลังค่อยดู ฯ | |||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น