วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อบายมุขกับการบูชาเทพ

อบายมุข กับการบูชาเทพ
...........ปุจฉา : ทราบว่าอาจารย์ไม่ชอบเล่นหวย งวดที่แล้วหนูไปทำบุญวัดถ้ำ...หลวงตาท่านใบ้หวยมา ถูกเลขท้ายสามตัว จึงอยากถามว่าท่านอาจารย์ว่า ถ้าว่าหวยไม่ดีไม่งาม  ทำไมพระยังใบ้หวยอยู่ล่ะ แถม
แม่นด้วย
...........ตอบ : ถามหาเรื่องชวนเราไปทะเลาะกับพระน่ะซิถามแบบนี้ สมัยเป็นหนุ่มเคยคิดเหมือนกันแหละว่าถ้าเราบวช จะต้องศึกษาหาวิธีบอกหวยแม่น ๆ ศึกษาการทำเครื่องลางของขลัง คนจะได้ศรัทธา ลาภสักการะจะได้หลั่งไหลมามาก ๆ จะสร้างวัดให้สวยงาม .......ฯลฯ....สาระพัดที่จะคิดจะฝัน แต่พอได้บวชเรียนจริง ๆ กลับตรงข้ามกับที่เคยคิด  พระพุทธเจ้าท่านชี้เลยว่าการพนันทุกชนิดเป็น"อบายมุข" คือหนทางแห่งความวิบัติ ฉิบหาย ใครหลงไหลมัวเมาการพนันจะหาความเจริญยาก ก็เชื่อคำสอนของ ท่านครับ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย หมดเนื้อหมดตัว ชักนำให้ก่ออาชญากรรมชนิดอื่นๆ สร้างความเดือดร้อนแก่ตัวเองไม่พอ ยังเบียดเบียนญาติพี่น้อง และชุมชนอีกด้วย  ก็เลยตั้งใจไว้นานแล้วแหละครับว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการพนันทุกชนิด  ไม่ใช่เฉพาะหวยหรอก
              ทีนี้หันมาหาคำถามที่ถาม ตอนแรกบอกไปทำบุญที่วัดถ้ำ อุตส่าห์นึกชมอยู่ว่าใจบุญสุนทาน แต่พอบอกได้หวยจากหลวงพ่อมาเลยหมดศรัทธาไม่อยากชมแล้ว มันเหมือนเราตั้งใจไปชมสวนดอกไม้แล้วไปคว้าดอกอุตพิษมา แล้วยังโฆษณาอีกว่าว่าได้ของดีมาอวด ไม่รู้เหมือนกันจะโทษใคร หลวงตาก็ห่วงแต่โยมจะไม่ศรัทธา ไม่รู้จักหวยเบอร์ว่ามันจะออกตัวไหนก็อุตส่าห์บอกใบ้ให้เขานำไปตีความ ก็คงมีสักคนแหละตีความตรงหวยที่จะออก สิบคนยี่สิบคนอาจมีสักคนหนึ่ง ถูกแล้วก็ร่ำลือกันว่าหลวงตาเจ๋งมาก
ลาภสักการะ ไหลมาเทมา แบบนี้แหละที่หลวงตาท่านประสงค์ เลยลืมว่าสิ่งที่บอกชาวบ้านไปคืออบายมุข คือทางแห่งความฉิบหาย พูดตรง ๆก็เหมือนหลวงตาบอกว่า "นี่คืออบายมุข ทาง ที่จะวิบัติฉิบหายวายวอด โยมจงนำไปตีความให้ได้แล้วนำไปแทง"  ส่วนพวกเราที่ไปคะยั้นคะยอให้หลวงตาบอกก็ถือว่าบกพร่องเหมือนกัน ไปวัดเจตนาจะไปทำบุญ ปีนขึ้นไปจนถึงถ้ำ แทนที่จะคว้าบุญกลับบ้านกลับคว้าอบายมุขไปฝากลูกฝากหลาน บอกข้างบ้านไม่พอโทรศัพท์ไปบอกญาติบ้านไกลอีกต่างหาก  บาปสมัยใหม่มันแพร่กระจายไวมากสมกับยุคไฮเทคจริง ๆ
              ทำไมพระยังใบ้หวยอยู่แถมแม่นด้วย   ก็ตราบใดมีคนใช้บริการอยู่ ก็คงมีหลวงตาใบ้หวยอยู่ ต่อไป แบบต่างฝ่ายต่างอาศัย กันส่วนที่บอกว่าแม่นด้วย หายากครับ ส่วนมากราคาคุยทั้งนั้น เพราะถ้ารู้จริง ลูกหลานหลวงตารวยกันเละแล้ว คนอื่นรวยไม่ทันเขาหรอก
...........  ปุจฉา---เห็นป้ายโฆษณาวัดหนึ่งชักชวนให้ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง บูชาพระราหูบูชาเทพ ต่าง ๆ  มันเกี่ยวกับชาวพุทธเราหรือเปล่าครับ ?
...........  คนถามก็ตอบได้ครับ  แต่อยากฟังกระผมพูดนั่นเองเลยเก็บมาถาม  ผมก็เห็นครับ มีเยอะแยะตามสองข้างทางที่เรานั่งรถผ่าน ไป เป็นกุสโลบายหาเงินของวัดเขาครับ บางทีก็เป็นความคิดของพวกกรรมการวัด แต่พระไม่ขัดข้องก็จัดทำกันไป  บางทีก็เลยเถิดจนเกินงาม ทำบุญสะเดาะเคราะห์  ไม่มีหรอกครับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าที่บอกว่าทำบุญแล้วจะหายเคราะห์หายโศก มีแต่บอกว่าทำบุญแล้วจะได้บุญ  คนมีบุญมาก ๆ จะอิ่มอกอิ่มใจ มีบารมีมากกว่าคนไม่มีบุญ คนทำบุญออกจากวัดมาไม่ระมัดระวังขับรถประมาทก็เกิดอุบัติเหตุได้เท่ากัน  ใช่ว่าทำบุญแล้วเคราะห์ร้ายจะไม่เกิด
........  แก้ปีชง  เป็นความเชื่อนอกคำสอนพุทธศาสนาครับ  พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าปีไหนเป็นปีแก้ ปีไหนเป็นปี ชง  ทุกปีมีค่าเสมอกัน  ทำชั่วปีไหนก็ชั่ววันยังค่ำ  ทำบุญปีไหนก็เป็นบุญตลอด  การแก้ไขโชคชตาที่เชื่อว่ามาจากปีเกิด เป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เพราะมันผ่านมานานจนจำไม่ได้แล้ว จะย้อนไปแก้ไขอะไรได้  พระจะย้อนไปแก้ไขอะไรให้เราได้ จะขายเครื่องบูชาให้เราน่ะซิ
  ..........บูชาพระราหู  ไปค้นหาประวัติพระราหู เขาเล่าว่าอย่างนี้  พระราหูถูกสร้างขึ้นมาโดยพระอิศวร หรือพระศิวะจากหัวกะโหลก 12 หัว บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทอง แล้วประพรมด้วยน้ำอัมฤตเสกได้เป็นพระราหู มีสีวรกายสีนิลออกไปทางทองแดงทรงสุบรรณ (ครุฑ) เป็นพาหนะ มีวิมานสีนิลอยู่ในอากาศ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (ทิศพายัพ) และอีกตำนานหนึ่งเล่าว่าพระราหูเป็นโอรสของท้าววิประจิตติและนางสิงหิกาหรือนางสิงหะรา เมื่อเกิดมามีกายเป็นยักษ์และมีหางเป็นนาค พระราหูเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา แสดงว่าพระราหูนี่เป็นเทพตามคติของศาสนาพราหมณ์
                    บูชาพระอิศวร  เทพเจ้าองค์นี้รู้จักกันทั่วไปในฐานะที่เป็นมหาเทพของศาสนาพรามหณ์ 
                    บูชาพระอินทร์  พระอินทร์ก็เป็นหนึ่งในเทพสำคัญ ๆ ของศาสนาพราหมณ์
                    บูชาพระพิศฆเนศวร์ นี่ก็รู้กันทั่วไปว่าเป็นเทพของศาสนาพราหณ์ โอรสของพระศิวะ
                    บูชาพระนารายณ์   มหาเทพ ของศาสนาหรามหณ์ 
                    บูชาพระพรหม   มหาเทพของศาสนาพราหมณ์
              สรุปว่าการบูชาเทพทั้งหลายที่กล่าวมาเป็น เทพของศาสนาอื่นที่มิใช่เทพของศาสนาพุทธครับ  เคยอ่านพุทธประวัติจากปฐมสมโพธิกถา เล่าถึงเทพต่าง ๆมาเฝ้าพระพุทธเจ้า  เทพที่มีศักดิ์สูงหน่อย ก็พระพรหม ที่มาอาราธนาพระพุทธเจ้าเทศน์โปรดชาวประชานั่นแหละครับ  แล้วก็พระอินทร์ที่มาปรนิบัติตอนพระพุทธเจ้าอาพาธิ  นอกนั้นก็ท้าวจตุโลกบาล ภุมมเทวดา รุกขเทวดา  มาฟังเทศน์แต่ไม่เคยได้ยินพระพุทธเจ้าสอนให้ไปเคารพกราบไหว้เทพ หรือเทวดาเหล่านั้น เพราะท่านสอนว่าให้เคารพกราบไหว้พระรัตนตรัยเท่านั้น อย่างอื่นไม่ต้องไปเคารพกราบไหว้  ขนาดมีคนขออนุญาตสร้างรูปปั้นพระองค์ท่านไว้เคารพบูชา ท่านก็ไม่อนุญาต อันเป็นที่มาของบางวัดห้ามไหว้พระพุทธรูป
                  เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ ที่จริงคนรับผิดชอบ แก้ไข ควรเป็นคณะสงฆ์ครับ  ปล่อยให้ลูกศิษย์พระพุทธเจ้าไปกราบไหว้เทพเจ้าศาสนา อื่นได้อย่างไร  อย่าไปสนใจเลยครับปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา ดีที่สุด ละเว้นการทำชั่ว ทำแต่ความดี หมั่นชำระใจให้สะอาดแค่นี้ก็ไม่ต้องสะเดาะเคราะห์ ไม่ต้องถามหาโชคลาภ มันเกิดเองตามเหตุตามปัจจัยที่ทำครับ
--------------------------
ขุนทอง ตรวจทาน 1/8/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น