วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

ไปโรงพยาบาลประสาท



.......19 มกราคม 2561 คุณยายจะไปพบหมอที่ สถาบันประสาท วิทยา กรุงเทพ ฯเพราะมีอาการปวดที่ปลายประสาท ก็ถามว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็จะไปโรงพยาบาลประสาทไม่ได้บ้าซักหน่อย เลยโดนซะชุดใหญ่ บ้ากับโรคประสาทมันไม่เกี่ยวกันนะ ทุกคนต่างก็มีประสาทกันทั้งนั้น ถ้าไม่มีประสาทมันก็ไม่มีความรู้สึก เข้าใจไหม....ประสาทน่ะอายุมากขึ้นมันก็เสื่อมได้ เจ็บปวดได้ หมอที่เชียวชาญทางโรคประสาทเขาจะแนะนำและให้การรักษาได้ อืมหายง่วงไปเลย ก็ขอโทษยายแล้วกัน จะไปเป็นเพื่อนอยู่แล้วน่าก็ตกลงคุยเรื่องเดินทางดีกว่า
......ไปกรุงเทพฯ ไม่เอารถไปนะ เพราะรู้สึกเบื่อ ๆ ขับรถเข้าไปกรุงเทพฯ โดยเฉพาะแถวรามานี่ ไปสาย ๆหาที่จอดรถยากมาก ยายเห็นด้วยตกลงไปรถตู้กันตื่นตีสี่ พร้อมก็ตีห้า ลูกสาวเอารถคันใหญ่ไปส่งที่สถานีขนส่งฉะเชิงเทรา คิวรถตู้ที่จะไปกันจอดที่นั่น ไปถึงมีรถออกพอดี เรียกให้รอเขาบอกรถเต็มให้ไปคิวถัดมา ครู่เดียวรถคิวถัดมาก็วิ่งมาจอดและให้ผู้โดยสารขึ้น รอไม่ถึงสิบนาที เต็มทุกที่นั่ง ก็ออกปลายทางคือ มีนบุรี เคยไปสองสาม ครั้ง ก็เลยหลับเพราะตื่นเช้าเกินไป ปล่อยให้รถพาไป มาตื่นก็เข้า เขตมีนบุรีแล้ว ถนนรามคำแหง เลี้ยวขวาไปมีนบุรี ไม่นานก็จอดให้ลง บอกหมดระยะแล้วลงได้ อ้อค่าโดยสารช่วงนี้สี่สิบบาท
.......เดินต่อไม่ถึง 50 เมตรก็เป็นสถานีรถตู้มีนบุรี ไปอนุสาวรีย์ชัย กับสวนจตุจักร รถจอดอยู่คนละฟากทางเข้าสถานี ขวามือไปที่จตุจักร ซ้ายมือไปอนุสาวรีย์ ผู้โดยสารไปอนุสาวรีย์เข้าแถวน่ารักดี พอรถมาจอดก็เดินขึ้นรถ 12 ที่นั่ง เต็มก็ออก รอคิวถัดไปไม่ถึงสิบนาทีมาแล้ว ไม่มีกระเป๋าเก็บค่าโดยสารนะ เขาใช้กล่องอัตโนมัติแทน เป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ส่งให้ต่อ ๆ กัน คนละสามสิบบาท ครบแล้วคืนมาให้คนขับ ครบ360 ก็ใช้ได้ เคยชม ญี่ปุ่นหยอดตู้เก็บเงินบนรถเมล์ เจอของไทยเจ๋งกว่า ช่วยให้คนมีวินัยดีมาก ๆ เลย ช่วงจากมีนบุรีไปอนุสาวรีย์ ไม่รู้วิ่งถนนอะไรบ้าง จำไม่ได้ ไม่เหมือนเราขับเอง ก็เลิกสนใจ เปิดโทรศัพท์มือถือดูเนวิเกเตอร์แทน แรกบอกประมาณ 81 กิโลเมตร ทิ้งช่วงเวลาจากหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมงครึ่ง ดูใหม่เหลือ 30 กิโลเมตร สังเกตรถติดตลอดมาถึงอนุสาวรีย์ก็สองโมงเศษแล้ว
.......เดินออกจากท่ารถก็เห็นอนุสาวรีย์ชัย ฯ จะไปรถแท็กซี่เรียกยากโบกหลายคัน มันไม่จอดรับ แหมแต่งตัวสวยยังกะคุณนายทำไมไม่จอดรับนะ...ก็เลยบอก ว่าอย่าไปเรียกรถที่เขาไม่ได้เปิดไฟป้าย"ว่าง" เพราะแสดงว่ามีผู้โดยสารแล้ว ไม่นานรถมีไฟว่าง วิ่งมาโบกทีเดียวได้เลย คนขับอายุห้าสิบเศษยายสัมภาษณ์เอง เราฟังก็รู้สำเนียงบ้านเฮา ก็ไม่อยากคุยด้วยกลัวเขาจะรู้ว่าบ้านเดียวกัน เดี๋ยวจะเรื่องยาว ไปไม่ถึง 500 เมตรเองก็ถึงทางเข้าสถาบันแล้ว ให้แกเลือกจอดตามสบาย จอดไหนเราก็ลงที่นั่นแหละ47 บาท ค่าแท็กซี่ เราลงตรงหน้าโรงอาหารพอดี กำลังหิว ยายอุทานดีใจนึกว่าอะไร ที่แท้วันนี้มีตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้าขายของตรึม ลิ่วจะไปตรวจตลาด แหมยายสองโมงเศษหิวมากแล้วกินก่อนน่ายายค่อยมาเดินตรวจทีหลัง
.......ขึ้นไปบนอาคารโรงอาหาร คุ้นเคยดีมาทานหลายครั้งแล้ว คุณจ้อให้ตั๋วคนละ100 ไปแลกเกาเหลาเลือดหมูเจ้าเก่า ชุดละ 40 บาท นั่งก่อนยาย ครู่หนึ่งยายเอามาอีกชุด สงสัยนึกไม่ออกจะกินอะไร เลยมาลงเกาเหลาเหมือนกัน น้ำเปล่าอีกสองขวด ครบแล้วอาหารเช้า ความจริงโรงอาหารเขามีสิบกว่าร้าน อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง ร้านอาหารอีกสาน(ส้มตำ แกงอ่อม ลาบ ไก่ย่าง) ยังเช้าอยู่เลยเว้นไว้ก่อน เสร็จทานอาหารก็เกือบสามโมง เพื่อนยาย คุณ จ้อ เดินมาหาบอกว่าเตรียมการรับการตรวจไว้ให้ได้คิวที่สอง โหสุดยอด แต่ไม่แปลกใจนะ เพราะเขาเคยเป็นพยาบาลทำงานอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นคนใจดีชอบบริการเพื่อนฝูง ขอบคุณมากจริง ๆ
.......ขึ้นไปตึกตรวจคนไข้ ก็เหมือนโรงพยาบาลทั่วๆไป ให้วัดน้ำหนัก ความดัน ปรากฏว่าความดันยายสูงไปหน่อย ต้องรอวัดอีกรอบ จึงค่อยได้เข้าพบหมอ เห็นนานเลยลงไปเข้าห้องน้ำ เดินเล่นไปมามีโทรศัพท์บอกว่ายายกำลัง รอรับยาหน้าห้อง 13 ก็เลยรีบขึ้นไปชั้นสอง ครู่เดียวยายก็ได้ยาเมื่อสี่โมงเศษ มีเวลาตรวจการตลาดนัดเต็มที่ ก็เชิญกันตามสบาย ชอบชอปทั้งคู่หอบหิ้วกันเต็มมือ ออกไปรอแทกซี่หน้า รามา นานมากกว่าจะเรียกได้ เพราะไปแค่อนุสาวรีย์ ใกล้เที่ยงด้วย คนเรียกเยอะด้วย คนขับบอกว่าช่วงเวลานี้ผู้โดยสารเยอะ ใกล้ ๆ ไม่อยากรับกัน ค่าแทกซี่เท่าขามา 47 บาท พวกเราไปลงรถหน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรี
........ช่วงพักเที่ยงคนเยอะร้านอาหารอร่อย ไม่แพง นักเรียนนักศึกษาชอบมาทานกันเขาบอก ท่าจะจริง คุณจ้อนำทางไปร้านก๋วยเตี๋ยว คนแน่นมากคงจะอร่อย คนรับแขกหน้าตาคุ้น ๆ สำเนียงบ้านเฮา คุยไปคุยมาจำได้ ภรรยาเขาเป็นกลุ่มเพื่อนยายนักเรียนพยาบาล พปก.จันทบุรีนั่นเอง เมนูก๋วยเตียวเรือของแท้สูตรดั้งเดิม สมัยไปเดินซื้อหนังสือริมคลองหลอด ใกล้ศาลพระแม่ธรณี จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท อร่อยมาก ไปทีไรซัดสองชามประจำ หลังจากนั้นปิดตลาดนัดสนามหลวง ก๋วยเตียวเรือก็หายไปด้วย มาโผล่ที่อนุสาวรีย์ ได้ลองอีก รสเดียวกัน วันนี้ได้กินก่วยเตี๋ยวเรือรสแบบนั้นอีกก็อดคิดถึงความหลังไม่ได้ น่าเสียดายกินอิ่ม ไม่เก็บตังค์ซะนี่ ก็ได้แต่ขอบพระคุณมาก ๆครับ ไปอีกจะแอบไปอุดหนุน เมนูราคา 16 บาทชามเล็ก 30 ชามใหญ่
........อิ่มอร่อยก็ออกมาเจอแผงขายเสื้อผ้าราคาไม่แพง120 150 200 250 ป้ายที่ปิดไว้สองคนเดินตรวจใหญ่เลย ไปเจอกางเกงยักษ์ เอว 48-50 นิ้ว โคนขา 40 เซ็นต์ ยายเลือกมาหลายตัว คงเอาไปฝากลูกหลานที่เขาใช้ขนาดพิเศษพวกนี้ได้ของชอบแล้วก็ออกมา คุณจ้อนำมาส่งถึงท่ารถตู้ไปมีนบุรี ขึ้นรถแล้วก็ลากลับ ขอบพระคุณมากนะครับมากรุงเทพ ฯทีไรก็รบกวนทุกที ไปทรวงอกก็เจอ มาทางสถานบันประสาทก็เจอน้ำใจไมตรีเหลือล้นจริง ๆ
.......ออกจากอนุสาวรีย์ชัย ฯ รถวิ่งทางเดิม อ้อ..ถนนสาย 304 มาลงมีนบุรี ถามหาท่ารถไปฉะเชิงเทรา เข้าชี้ไปแถวคนยืนข้างถนน เข้าใจแล้วตอนเช้าก็เห็นที่ท่ารถตู้ที่จะไปอนุสาวรีย์ อยู่ฟากทางฝั่งโน้น ขากลับเขาให้ผู้โดยสารยืนรอที่ ฟุตบาท เข้าแถวกันนึกว่าซื้อของกิน กลายเป็นผู้โดยสารประมาณ 15 คน ถามหารถไปฉะเชิงเทรา เขาบอกให้ไปต่อท้ายแถวได้เลย ถามพ่อหนุ่มที่ยืนแถวอยู่ เขาบอกจะไปแปดริ้วเออ ใช่แน่ ไม่นานก็มีนายท่าเดินมานับ 12 คน บอกให้เดินตามเขาไป เห็นพาเลี้ยวขวาลับหายไป สักห้านาที นายท่ามานับอีก 12 คน มีคนเพิ่มแต่เมื่อไรไม่รู้ พาไปส่งรถ... เราถึงขนส่งฉะเชิงเทรา ห้าโมงเศษ ต่อสามล้อตุ๊ก ๆ ถึงบ้านเกือบหกโมง เหนื่อยเอาการ ยายขอหลับ แต่เราไม่เคยหลับหัวค่ำ เลยมานั่งเขียนบันทึกจนเมื่อยมือ จบแล้วครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น