วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

อนุชีวประวัติช่วงอุปสมบท





                                                  ไปตราดปีที่แล้ว 2561 ถ่ายที่ตราดโฮเทล

..............เขียนเล่าความหลังวันเด็ก ค้างไว้ตอนจะจบ อ่านดูยังคลุมเคลือเลยหยิบมาเขียนต่อ จะเรียก อนุชีประวัติตอนที่ 2 คงได้ วันหลังนึกสนุกค่อยมาเติม เป็น อนุชีวประวัติตอนที่......ไปเรื่อยตามอารมณ์ครับ
                                                                      ขุนทอง ศรีประจง
                                                                            15 มค. 2562

                                                            
                                                             อนุชีวประวัติ ตอนที่ 2

ปีสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ อัตคัตชีวิตที่ผิดหวัง
ถึงคราวเปลียนทางดีคงจีรัง ได้ขึ้นฝั่งโลกธรรมบรรพขา
ได้เข้าบวชเป็นพระละเคหาสน์ ฝึกฉลาดทางธรรมนำศึกษา
ตรีโทเอกเปรียญพากเพียรมา เป็นมหาสี่ประโยคโชคชำนาญ
มีโอกาสช่วยศาสนกิจ สั่งสอนศิษย์นักธรรมนำประสาน
สอนเปรียญสองสามกระทำการ รักทำงานตอบแทนคุณธรรม
สืบเนื่องจากประวัติมิชัดแจ้ง จักแสดงเพิ่มเติมเดิมฉนำ
ก่อนจะบวชอยู่บ้านการกิจกรรม ดำเนินชีพเฉกเช่นชนทั่วไป
สอบบรรจุมิมีประกาศรับ  เลยต้องจับกิจบ้านการสิ่งไหน
ช่วยพ่อแม่กระทำประจำไป คือทำไร่ทำนาประสาจน
ตื่นเช้าเข้านาสวนล้วนทำกิจ จนประสิทธิ์ทุกงานการฝึกฝน
ตั้งใจทำให้ดีเกินผู้คน ที่เคยบ่นหันหน้ามาชื่นชม
ฝึกกิจบ้านการเรือนเหมือนคนอื่น มิยากฝืนอดทนกลเหมาะสม
ลงทำสวนทำไรใจนิยม วิชาคมเกษตรกรรมเรียนสามปี
เอามาใช้ย่อมดีมีคุณค่า พัฒนาไร่สวนมวลวิถี
เคนที่เคยดูหมิ่นกลับยินดี บ้างก็มีคิดไกลใคร่ผูกพัน
ชวนรู้จักมักคุ้นก็มีมาก ดูมิยากคิดอะไรให้นึกขัน
มิสนใจตั้งหน้าทำงานกัน ผ่านเดือนวันยิ่งชำนาญการนานา
งานถักถอฟั่นเชือกเลือกทำได้ ปอปลูกไว้เต็มสวนควรเสาะหา
เล็นเชือกป่านสานแห่ฝึกปรือมา หนักหน่อยถ้าเชื่อกล่มผูกวัวควาย
ฟั่นเชือกคร่าวเส้นใหญ่ไถครากดึง วัวลากตึงเหนี่ยวแน่นมิขาดหาย
ต้องฟั่นเองทั้วนั้นมันวุ่นวาย ล้วนสบายฝึกได้ไม่ยากเย็น
งานจักสานสนุกเอาทุกอย่าง พ่เป็นช่าวชั้นดีตามที่เห็น
พี่ชายยิ่งชอบช่างทุกอย่างเป็น มาเคี่ยวเข็นให้ฝึกลองตรึกตรอง
แรกให้สานลายขัดตอกแข็งแข็ง นี่มาแกล้งหรือไฉนได้ลายสอง
ท้ายก็เป็นตะแกรงร่อนรำกรอง พี่สาวมองบอกเขิงไว้ร่อนรำ
สานกระด้งกระจ่อพอทำได้ จะสายไซถักลอบชอบนึกขำ
งานไม้ไผ่มิง่ายหลายกิจกรรม ฝึกกระทำมากมายสบายดี
หนักสานฝาลายคุบสี่ปล้องยั้ง ห้าปล้องผังทางยาวตามวิถี
เปลี่ยนฝาบ้านของเก่านานหลายปี ควรจักมีฝาใหม่ไว้เปลี่ยนกัน
เปลี่ยนสามด้านเจ็ดแผ่นช่วยกันทำ จักตอกนำไม้ไผ่ลำใหญ่สรรพ์
ไผ่ตงบ้านเหนียวดีนี่สำคัญ พ่อตัดมันมาไว้ให้ฝึกปรือ
แจกมีดให้ลับคมเป็นหรือยัง ลับระวังเบาเบาจับแน่นถือ
สักครูมองเห็นคมมันยังทือ ลับต่อคือสองข้างลับเบาเบา
จนไม่เห็นสันคมแหละใช้ได้ นำมาใช้จักตอกตัดผ่าเหลา
สะดวกงานระวังมือจะบาดเอา โดนบากเราได้แผลเป็นประจำ
จักตอกเสร็จก็สานผ่านยากหน่อย แต่เรียบร้อยคนขยันกิจกรรม
มีโอกาสฝึกงานจักสานทำ  ของใช้นำมาบอกเหมือนหลอกกัน
ชินแรกสานฝากแตะตกตั๊กแตน อย่าดูแคลนมิง่ายขายหน้าสรรพ์
หมดด้ามลองฝึกไปได้สามอัน ก็น่าขันสานยากเอาเรื่องเชียว
สานพัดบ้างกระด้งแลกระจ่อ ยังมิพองานละเอียดยากแหลเหลียว
สานกระเช้าครุตะกร้าเรียงมาเชียว ทำงานเดี่ยวครูปล่อยไม่ลอยนวล
เสร็จนำส่งพ่อพี่มีคนตรวจ ชอบมากกวดขันครุจนนึกสรวล
ตอกกลมกลมเหลี่ยมๆตามกระบวน สานแล้วชวนชันยาทาให้ดี
ต้องขังน้ำไม่รั่วแหละใช้ได้ เขาเอาไปตัดน้ำตามวิถี
ครุกะแป๋งมิรู้ยังมิมี สังกะสีป๋องนมเพิ่งเกิดมา
เก่งมากขึ้นลอบไซให้ทำเป็น มิยากเย็นครูฝึกท่านบิดา
เตรียมเครื่องมือมากมายจะจับปลา ยากนักหนาจักสานมิขาดมือ
ลอบไซเผียกถักไว้มิได้ว่าง ฝนมาช่างพอดียามนี้หรือ
จะทำต้อนทำต่งนั่นแหละคือ มิต้องซื้อหาใครได้ใช้การ
ไซ อุปกรณ์ดักปลา ทางน้ำไหล มีงาเข้าได้ออกไม่ได้ ต้องเปิดปากเทออก
ลอบ ซี่ไม้ไผ่ขนาดดินสอยาว สอง-สามปล้อง ถักเป็นแผ่นม้วนเป็นวงกลม
       กั้นเป็นสองช่อง ปากติดงาเป็นทางเข้า ตรงกลาง มีงาผ่านไปช่อง
       ที่สอง ท้ายมีช่องเปิดเทเอาปลา วางดักทางปลายผ่านไปมา
เผียก คล้ายเสื่อลำแพน ใช้ซี่ไม้ไผ่ เหลาค่อนข้างแข็ง เดิมใช้เครือไม้
       ถักเป็นแผ่น เอาไว้กั้นทางน้ำไหล มิให้ปลาผ่าน ต้องว่ายเลาะไป
       จนถึงช่องที่เปิดไว้ ตรงนั้นจะมี ลอบ หรือ ไซ ดักไว้
ต้อน  ที่ดักทางน้ำไหล มิให้ปลาผ่านโดยงาย ปลาจะถูกต้องให้ว่ายเลาะ
        ไปยังช่องที่กำหนด ใช้เผียกยาวสักเมตรเศษ กันทางน้ำให้ไหล
        ผ่านเผียก ตกเสียงดัง ทำให้ปลาได้ยินว่ายมา โดนดักด้วยลอบไซ
ต่ง   อุปกรณ์จับปลาสานด้วยเชือกเหนียวคล้ายตา แห แต่ทำเป็นถุงยาว
       3-4 เมตร ก้นต่งผูกไซติดไว้ดักปลา ปากต่ง กางตรงทางน้ำไหลที่
        ทำคันกั้นไว้ บังคับให้น้ำไหลเป็นช่องที่จะดักด้วยต่ง ได้ปลาทุกขนาด
        ที่ว่ายลงตามน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น