วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บันทึกการอ่านพระราชประวัติในหลวง





…………….กระผมเกิดมาทันสมัยทรงราชาภิเษกพอดี แต่ยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอก เกิดปี 2487 พอปี2489 ก็ทรงครองราชย์กว่าจะรู้จักว่าในหลวงคือพระเจ้าแผ่นดิน ก็อยู่ประถมศึกษา เพราะต้องร้องเพลงชาติ ทุกวันที่ไปโรงเรียน วันศุกร์ก็ร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี ครูใหญ่ก็อบรมก่อนปล่อยกลับบ้านได้หยุดเรียนเสาร์ อาทิตย์ คำพระเจ้าแผ่นดินที่ได้ยินครั้งแรกเคยเอามาเถียงกันนะว่าคือใครทำไม เป็นเจ้าแผ่นดิน คำตอบของพวกเราล้วนแต่คนไม่เคยเห็นเลยวาดมโนภาพว่าคง เป็นผู้สร้างแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาล บางคนว่าเป็นคนที่รวยที่สุดถึงเป็นเจ้าของ แผ่นดิน ผมบอกเพื่อนว่าต้องเป็นคนเก่งที่สุดถึงจะเป็นเจ้าแผ่นดินได้ ฯลฯ หลัง จากนั้นมาเราก็เริ่มได้เห็นรูปภาพที่ครูเอามาติดที่ห้องประชุม แลเริ่มสังเกตเห็นว่าในธนบัตรในเหรียญ ก็เป็นรูปพระเจ้าแผ่นดิน รู้สึกว่ารูปพระองค์ท่านหล่อมาก สง่างามมาก หนังสือพิมพ์ ไม่มีให้อ่านหรอกตามบ้านนอกวิทยุยังไม่เกิด มีแต่ โทรเลขพวกข่าวสารต่าง ๆไม่มีหรอกจะรู้เรื่องในหลวงก็เมื่อครูเล่าให้ฟังแต่ครูก็เล่า แต่เรื่องมหาราชองค์ต่าง ๆซึ่งฟังสนุก ตื่นเต้น
..........เมือโตขึ้นยุคข่าวสารข้อมูลดีขึ้น ก็ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าแผ่นดิน มากขึ้น ตอนเสด็จเยี่ยมประชาชนตามภูมิภาคต่าง ๆ ยินข่าววิทยุ เห็นภาพและ ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เห็นภาพคนถือธงไปรอรับเสด็จ รู้สึกชื่นชมมาก คิดอยู่ว่า ถ้ามาทางบ้านเราคงดีจะได้เห็นใกล้ ๆ หน่อย จนแล้วจนรอดไม่เสด็จใกล้หมู่บ้าน เราเลย เสด็จมาก็ลงที่ศาลากลางจังหวัด แล้วก็ไปพื้นที่ที่มีปัญหาแหล่งน้ำ ป่า แล้วก็เสด็จกลับ ห่างไกลหมู่บ้านเราเดินไม่ไหว มีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จจริง ๆ ก็ตอนรับปริญญาที่สวนอัมพรนั่นแหละ
..........ยิ่งนานวันเข้ายิ่งรู้จักในหลวงพระองค์นี้มากขึ้น จากการบอกเล่าของคน ที่เคยรับใช้ใกล้ชิดบ้าง จากข่าวสารบ้างจนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมจึงทรงวางตน ไม่เหมือนเจ้านาย แต่ทำตนเป็นพวกของประชาชน ใครเดือดร้อนมีทุกข์เป็นต้อง ทราบก่อนคนอื่น มีคนเล่าว่าในหลวงมีเครือข่ายวิทยุสื่อสารอยู่ทั่วประเทศไทย ทั้งที่เป็นเครือข่ายของพระองค์ และเครือข่ายอื่น ๆที่พระองค์สามารถรับสารได้
ยิ่งไปกว่านั้นทรงรับรู้ข่าวสารจากสื่อต่างประเทศได้ด้วย ข่าวว่าบางวันที่มีรายงาน ข่าวพายุ ไฟไหม้ น้ำท่วม ทรงติดตามข่าวสารจนดึกดื่น
........พระราชาที่ไม่มีเวลาสำหรับตนเอง สังเกตมานานแล้วพระเจ้าอยู่หัว พระองค์นี้ไม่ค่อยมีวันหยุด เสาร์อาทิตย์ก็ทรงงาน วันสำคัญส่วนพระองค์ก็อย่า คิดนะว่าจะหยุดงาน กล้อง วิทยุ แผนที่ ไม่ห่างพระองค์หรอก เราเลิกงานกัน สี่โมงครึ่ง แต่สี่ทุ่มครึ่งยังทรงงานอยู่ ที่น่ากังวลมากคือไม่ยอมเกษียณงานแบบ
พวกเรา 60 ปี ก็หยุดพักแล้ว แต่พระองค์ไม่หยุด ตอนประทับรักษาพระองค์ที่ ศิริราช คนนินทาพระองค์ว่ายังทรงงานเป็นปกติ
..........พระราชาที่ประชาชนรักด้วยใจไม่ต้องเกณฑ์มารับเสด็จ เพียงทราบข่าว ก็แห่กันไปรอรับเสด็จล่วงหน้า จองที่ยืนกัน เห็นพวกไปลงชื่อถวายพระพรที่ศิริราช นั่นแหละตัวอย่าง บางคนมาจากเหนือใต้สุด มาด้วยใจรักภักดีจริง ๆ แล้วมีคนไม่ รักบ้างไหม ก็มีนะเป็นธรรมดาขนาดพระพุทธเจ้ายังมีคนไม่รักไม่ชอบ
..........ช่วงนี้ในหลวงจากพวกเราไปแบบไม่มีวันกลับ ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าเสียใจ มากไหม กระผมรักและเคารพท่านไม่น้อยกว่ารักพ่อแม่หรอก เพราะผมเป็นลูก จ้างของพระองค์ท่าน เป็นข้าราชการคือข้าผู้ทำการให้พระราชา กินเงินเดือนหลวง แม้เกษียณแล้วก็ยังเมตตาจ่ายบำนาญให้อีก เจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลก็ได้รับการ ดูแล พระบารมีแผ่ปกเกล้าขนาดนี้จะไม่ให้จงรักภักดีได้อย่างไร กระผมเป็นข้าที่ดี
ซื่อสัตว์ต่อหน้าที่ ไม่เคยทุจริตเวลาหรือหน้าที่การงาน ยึดแนวทางของพระองค์ คือทำงานให้เกินค่าจ้างไว้ จะได้ไม่ติดค้างหลวง ดังนั้นถึงไม่บอกว่าเสียใจที่ทรง จากไป แต่บางครั้งก็น้ำตาตกในนะ ทำไมคนดี ๆ จะอยู่กับพวกเรานาน ๆ หน่อย ไม่ได้ แต่ก็คงทำอะไรไม่แล้วได้แต่น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมอุทิศบุญกุศลถวาย พระองค์ท่าน ให้เสด็จสู่สวรรคาลัยเสวยสันติสุขชั่วนิรันดร์กาล
..........ในช่วงเวลาเช่นนี้จะขอศึกษาพระประวัติที่มีผู้นำเสนอไว้มากมาย มีเรื่อง ใดบ้างที่ยังไม่ทราบ พบว่ามีมากมายเหลือเกินที่ไม่ทราบมาก่อน และเพื่อช่วย จดจำจะขอบันทึกด้วยภาษาร้อยกรองและนำโพสให้เพื่อน ๆในเฟสบุ๊คได้อ่านด้วย 

ขุนทอง ศรีประจง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น