วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วันเกิดทุกวัน

                                                     วันเกิดทุกวัน
.........................
...............ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา เขียนอวยพระวันเกิดเพื่อนพ้องน้องพี่ไปกว่า 20 สำนวนจนแทบจะซ้ำความกันทีเดียว  ดีที่บันทึกไว้ทุกสำนวน เฟสบุ๊คมันดีนะ คอยเตือนว่าใครครบวาระวันเกิดบ้างเพื่อนหลายคนไม่เห็นเตือนวันเกิด ก็ไม่ได้เขียนคำอวยพรให้ ก็ขอโทษด้วย
...............ทีนี้ก็หันมานึกถึงตัวเองบ้างว่า จะฉลองวันเกิดแบบคนอื่นดีไหม คงไม่ไหวหรอกครับเพราะผมเกิดทุกวัน ใครคิดจะเขียนคำอวยพรคงต้องเขียนจนมือหงิก หรือไม่ก็เลิกเขียนกัน  ไปเลย ก็อาจสงสัยว่ากระผมเกิดทุกวัน จริงรึเปล่า  สัปดาห์หนึ่ง 7 วัน เกิดทุกวันเลยเหรอ  เดือน 30 วัน ปี 365 วัน ด้วยรึเปล่า เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีความคิดบ้า ๆบอ ๆ แบบนี้หรอกครับ แต่ได้ฟังพระท่านเทศน์ให้ฟังเรื่องการเกิด ๆ ดับ ๆ ของสังขาร ถึงกับอึ้ง
............ท่านบอกสังขาร นามรูป ของเรามันแตกดับ ทุกลมหายใจ แค่เราภาวานา พุท...โธ มันดับไปแล้ว ยังดีที่สันตติ ยังสืบต่อได้อยู่ เลยยังมีนามและรูปของเรา นั่งภาวนาต่อไป วันหนึ่ง ๆมันเกิดดับ ๆ ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้ง เคยเถียงนะครับว่าไม่เห็นมันจะเกิดดับตรงไหน  นั่งสมาธิเบื่อก็มาขอดื่มน้ำชากับท่านอาจารย์นี่เอง ท่านเลยทดสอบให้ว่า  จำได้ไหมสมัยเด็ก รูปร่างหน้าตาเธอเป็นอย่างไร แหมถามกล้วย  ๆ  บรรยายภาพตอนอยู่ ป. 4 ให้ท่านฟัง  แล้วท่านถามต่อว่าวันนี้ เด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน  ก็เรียนท่านไปว่าผมนั่งอยู่นี่ไงครับ อาจารย์ก็บอกว่าแน่ใจเหรอว่า คือคนนี้ เธอว่าเด็กคนนั้น ยังไม่รู้ภาษาอื่นนอกจากภาษาที่พูดคุยกับพ่อแม่  แต่เธอรู้ภาษาอังกฤษ รู้ภาษาบาลี ใช่คนเดียวกันจริงหรือ  ชักงงเหมือนกัน  เอาอีกข้อ เด็กคนนั้นยังไม่รู้จักอายใคร แก้ผ้าอาบน้ำในคลองได้  แต่เธอทำได้ไหมล่ะ  เฮ้ย...อี้ง  เอาอีก  เธอมีลูกสามคนแต่เด็กคนนั้นมีลูกกี่คนล่ะ  ?????  ยอมแพ้แหละอาจารย์
..............ท่านเฉลยให้ฟังว่า ถึงรูปนามจะแตกดับไป แต่สันตติความสืบเนื่องจะผุดเกิดมาแทนที่ทันทีจนเราไม่รู้สึกถึงการแตกดับของนามรูป ทุกเช้าที่เราตื่นมา แสดงว่าสันตติมันทำงานตามปกติ เมื่อใดมันทำงานไม่ได้ สันตติก็ขาด เราเรียกว่าตาย  ......โหอาจารย์พุทธศาสนามีสอนแบบนี้ด้วยเหรอ แบบนี้ผมก็เกิดทุกวันซิ  ก็ใช่อีกนั่นแหละ นี่คือที่มาของคำที่กระผมบอกว่าวันเกิดของกระผมคือทุกวัน วันไหนเกิดไม่ได้คือจบ ไม่มีนายขุนทอง อีกต่อไป เหลือแต่ชื่อ หลวงพ่อบอกว่าที่เราฝึกอบรมวิปัสสนา ก็เพื่อ
ให้เกิดสมาธิ มีสติแข็งกล้า เกิดปัญญาเห็นรูปนาม ตอนนั้นแหละจะนำไปสู่การเห็นอาการแตกดับ ของนามรูป และเห็นสันตติที่สืบต่อรูปนามเอาไว้ ที่ภาษาพระเรียก เห็นไตรลักษณ์ สันตติที่เห็นรูปนามเกิดดับ ๆ จากวิปัสสนาท่านเรียกสันตติภายในเห็นได้ด้วยวิปัสสนา
 ...............สาธุหลวงพ่อ ต่อไปนี้ผมไม่ต้องไปจำวันเกิดให้ยากแล้ว เพราะทุกวันคือวันเกิดขอให้ได้เกิดทุกวันต่อๆไปแล้วกัน   แล้ววันเกิดแบบคนอื่น ๆเขาล่ะมีไหม ก็มีเหมือนกันแหละครับ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ พ่อบอกว่าหลังเกิดซัก 2 อาทิตย์จึงไปแจ้งลุงผู้ใหญ่ ลุงบอกจะแจ้งอำเภอให้วันไปประชุม จดวันเดือนปีเกิดและชื่อใส่กระดาษให้อย่างดี แต่กว่าจะสิ้นเดือนถึงมีประชุมรับเงินเดือนกระดาษที่จดไว้ก็หายแล้ว  ชื่อ สิงทองก็กลายเป็น ขุนทองวันเดือนปีก็คงจะเพี้ยนเหมือนกัน แต่ตอนเด็ก ๆ ไม่สนใจวันเดือนปีเกิดหรอก เลยไม่ได้ถามพ่อแม่ว่า เกิดจริง ๆ วันไหน  ใช่วันปรากฏในใบเกิดไหม  แม่บอกไม่ใช่ แกเกิด"วันลับลึน "มึนครับ จนวันนี้ผมยังไม่ทราบว่ามันคือวันอะไร  ใครรู้จักบอกเอาบุญด้วย
-----------------
ขุนทอง ตรวจทาน 1/8/59

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น